วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

สู้อัตราเงินเฟ้อ และความเสี่ยงของฉัน

การลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อมีแค่ 3 อย่าง

คือ

1. ทอง (ถูกราคา ถูกเวลา)

2. อสังหาริมทรัพย์ (ถูกที่ ถูกราคา ถูกเวลา)

3. หุ้น (ถูกตัว ถูกที่ ถูกราคา)

*************************************************************************

ธีระ ภู่ตระกูล
“มีบำนาญแล้ว จะต้องเก็บอะไรอีกล่ะ”
“มีเงินในกองทุนประกันสังคมแล้วครับ”
“โอ๊ย…จะกินไปวัน ๆ ยังไม่ค่อยจะมีเลย จะเอาที่ไหนมาเก็บละคะ”
“จะรีบไปทำไม เพิ่งจะเริ่มทำงานปีแรก จะให้เก็บเงินเตรียมเกษียณแล้วหรือครับ”
คำตอบอาจต่างกันออกไปแต่กระแสเสียงที่จับได้จากคำตอบที่เรามักจะได้ยินเมื่อมีการเปิดประเด็นเรื่องการเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ หรือ พูดด้วยภาษาวิชาการสักนิด คือ การจัดสรรเงินออมเพื่อการเกษียณ ก็คือความไม่ใส่ใจ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม พวกเรามักไม่ให้ความสำคัญกับ เรื่องนี้เท่าไรนัก ทั้งที่การไม่วางแผนจัดสรรการออมเพื่อการเกษียณไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั้นนับเป็นความประมาทที่อาจก่อความเสียหายให้กับชีวิต ในวันข้างหน้าได้มากมายมหาศาล
คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการป้องกันความเสียหายที่อาจ เกิดขึ้น คือ เริ่มคิด (เรื่องการ) เริ่มออมกันตั้งแต่บัดนี้ก่อนที่จะสาย เกินไป และเพียงคุณเริ่มต้นพิจารณาศึกษากลยุทธ์การออมที่มีอยู่ ก็เท่ากับคุณเริ่มวางแผนจัดสรรเงินออมเพื่อเกษียณแล้วละครับ
เตรียมตั้งรับ ตั้งแต่ยังเยาว์
การจัดสรรเงินออมเพื่อการเกษียณ ฟังแล้วเครียด
แน่ละครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นี่ครับ
เอาละ เรามาคิดดูนะครับว่า หากเราเริ่มต้นชีวิตการทำงานเมื่ออายุ 21 ปี แล้วไปเกษียณตอน 65 ปี รวมเวลาทำงานหาเงินทั้งหมด 44 ปี คิดกันในแง่ดี (เอามากๆ) ว่าเราน่าจะมีช่วงชีวิตอยู่ได้จนถึงราว 85-90 ปี เราเลือกตัวเลขที่กลางๆ หน่อยก็ได้ ประมาณ 87 ปี
บวกลบแล้วเราจะ (ยัง) มีชีวิตในช่วงหลังเกษียณไปอีก 22 ปี เท่ากับ 2 : 1 ซึ่งหมายถึงว่าเราจะต้องเก็บเงิน จากการทำงานในช่วง 2 ปี เพื่อสำรองไว้ใช้ตอนเกษียณ 1 ปี แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าอนาคตไม่มี อะไรแน่นอน อาจจะมีสักปีหรือสองปีที่เราต้องเผชิญวิกฤติทางการเงิน ขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทำให้เราออมเงินไม่ได้ตามสัดส่วน ผลกระทบ ย่อมจะเกิดขึ้นกับเงินในส่วนที่จะสะสมไว้ใช้ยามเกษียณอย่างแน่นอน
และนี่นับเป็นเหตุผลที่ทำให้เราควรวางแผนออมเงินเพื่อเกษียณ และควรจะออมกันเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยนะครับ
ดอกเบี้ยทบต้น มูลค่าที่เพิ่มพูน
การผลิบานของดอกเบี้ยทบต้น เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราควร เร่งเก็บเร่งออมเงินโดยเริ่มเก็บเริ่มออมกันเสียตั้งแต่เนิ่นๆ
หลายคนอาจมีความรู้สึกไม่ดีนักกับดอกเบี้ยประเภทนี้เพราะทำให้ นึกไปถึงเจ้าหนี้หน้าเลือด แต่ดอกเบี้ยทบต้นมิได้คิดกันแต่ในวงการเงิน กู้นอกระบบเท่านั้นนะครับ ในแวดวงการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ใช้ระบบดอกเบี้ยทบต้นเหมือนกัน และเมื่อคิดผลได้ตามระบบ ดอกเบี้ยทบต้น การออมเงินอาทิตย์ละ 100 บาทในวันนี้จนเกษียณ อายุตอน 65 ปี ดอกเบี้ยจะผลิบานให้ผลตอบแทนที่แสนจะน่าชื่นใจ เพราะครั้งหนึ่ง (นานมาแล้ว) เมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 10 ต่อปี ยอดเงินออมที่สะสมไว้ตั้งแต่ยังเยาว์นี้ขยายผลเพิ่มยอดได้มากกว่าล้าน
ที่ควรคิดและพิจารณากันอีกประการก็คือ การออมเงินเพื่อเกษียณ นอกจากจะเจียดเงินเก็บกินดอกเบี้ยในธนาคารแล้วยังมีทางเลือก ทางอื่นอีก อย่างเช่น ลงทุนในกองทุนที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีอย่าง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม กองทุนรวมและกองทุน รวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งถือว่าเป็นการจัดสรรการออมเพื่อการ เกษียณที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้เพราะนอกจากเงินปันผลจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีแล้ว เงินสะสมที่เราจ่ายเข้ากองทุนยังสามารถนำมาลดหย่อนเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้อีก ด้วยนะครับ
ส่วนรายที่ทำงานอิสระที่ควรให้ความสนใจก็คือกองทุนรวมเพื่อการ เลี้ยงชีพ (RMF) ครับ
วันนี้ยังไม่สาย
ไม่ต้องท้อใจหากยังไม่ได้เริ่มต้นการออมเพื่อเกษียณ เพราะเริ่มกันวันนี้ยังไม่สาย แต่ต้องทำใจกันไว้ว่าการออมจะไม่ง่ายเหมือน พวกที่รู้จักเก็บรู้จักออมตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคน คิดช้า (ไปหน่อย) มีสมมติฐานที่พอเป็นยาชูใจอยู่บ้างมาฝากครับ
คือว่าช่วงอายุที่มักจะเป็นช่วงเวลาที่รุ่งสุดๆ ในชีวิต การทำงานมี ตำแหน่งสูงและมีรายได้มากที่สุดของคนส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงอายุ ประมาณ 50 ปี ซึ่งช่วงนี้เงื่อนไขที่เป็นเป้าหมาย (ภาระ) ทางการ เงินน่าจะคลี่คลายไปบ้างเป็นบางส่วน หลายคน (ใกล้) หมดภาระส่งบ้าน (และ) หรือลูกๆ ก็เรียนจบ มีงานมีการทำกันบ้างแล้ว ภาระเบาบางลงน่าจะทำให้มีกำลังในการออมมากขึ้นนะครับ
แต่ยังไงก็อย่านำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างประมาณว่าหวังน้ำบ่อหน้า เลื่อนแผนการจัดสรรเงินออม เพื่อการเกษียณออกไปเด็ดขาด เพราะการยืดเวลาครวญเพลง “รอ” ต่อไปอีก จะทำให้ทางเลือกในการออม จำกัดยิ่งขึ้นทุกที
และขอเตือนไว้ด้วยนะครับว่ามีบ้างเป็นบางครั้งที่เราก็ควรมองโลก ในแง่ร้ายไว้ด้วยเหมือนกัน เราไม่ควรลืมความจริงที่ว่าไม่มีใครรู้ลิขิต แห่งฟ้าที่วาดหวังไว้สวยหรูว่าชีวิตการงานจะรุ่งพุ่งแรงตอน 50 แต่ชะตาอาจพลิกผันกลายเป็นถูกปลดเพราะพิษเศรษฐกิจ เกิดอุบัติเหตุ ร้ายแรง มีปัญหาด้านสุขภาพ สถานการณ์เหล่านี้อาจทำให้เรา (จำ) ต้องเกษียณก่อน 65 ปี ตามเกณฑ์ แน่นอนสำหรับเราผู้มีวิสัยทัศน์ เหตุการณ์ (ร้าย) ที่อาจเกิดขึ้นนี้น่าจะทำให้ตัดสินใจเริ่มต้นออมเงิน เพื่อเกษียณกันได้แล้ว ใช่ไหมครับ แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่กระจ่างนักก็คือ ควรเตรียมเงินไว้มากน้อยแค่ไหน และควรจะเลือกเส้นทาง การออมแบบใด จึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวแปรสำคัญ
การออมเงินเพื่อเกษียณนี้ต่างจากเป้าหมายการเงินที่จำเป็นอย่างอื่นๆ รถยนต์ บ้าน ค่าเล่าเรียนลูก ต่างมีป้ายบอกราคา แต่การเตรียมเงิน ไว้ใช้ยามเกษียณที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่มีป้ายบอกราคาที่แน่ชัด แต่เราก็พอจะมีตัวแปรที่นำมาคำนวณเพื่อจัดสรรเงินออมไว้ใช้ยาม เกษียณในอีกราวสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้าได้
อย่างแรกที่เราต้องคิดถึงก่อน คือประเมิน (ตน) ว่าเราน่าจะมีอายุ ยืน (สัก) แค่ไหน และที่เราลืมไม่ได้ (แต่มักจะลืมกัน) คืออัตราเงินเฟ้อ ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีซึ่งนี่เองที่อาจทำให้เรามีมาตรฐานและคุณภาพชีวิต ในตอนนั้น (หลังเกษียณ) ต่ำกว่าที่คาดไว้เพราะอาจมีเงินใช้จ่ายเงิน ได้เพียง 60-80 เปอร์เซ็นต์ของที่คิดไว้ในตอนนี้
ย้อนกลับมาที่ตัวแปรแรกกันก่อน แน่นอนอายุเฉลี่ยของคนเราจะยืนยาว ขึ้นจัดเป็นเรื่องดี แต่เวลาที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ทำให้เราต้องอด (เพื่อ) ออมมากขึ้นตามไปด้วย และนี่เองคือความกดดันอย่างหนึ่งของพวกเรา ที่ยังไม่ได้เริ่มต้น
การคำนวณ (จริงๆ แล้วคือประมาณการ) ว่าเราจะมีชีวิตยาวนาน แค่ไหนนั้น ต้องพิจารณาปัจจัยรอบด้าน และตรรกะตามหลัก คณิตศาสตร์ ชั้นสูง ซึ่งตามสถิติในปัจจุบันอายุเฉลี่ยของผู้ชายจะอยู่ที่ 68 ปี ผู้หญิงอยู่ที่ 73 ปี และจากเกณฑ์การเกษียณอายุซึ่งส่วนมาก กำหนดกันเอาไว้ที่ 65 ปี นั่นเท่ากับว่าผู้ชายต้องจัดสรรเงินเพื่อเก็บไว้ ใช้จ่ายหลังเกษียณเพียง 3 ปี ส่วนผู้หญิงต้องเตรียมไว้ 8 ปี
แต่นี่เป็นค่าเฉลี่ยเท่านั้น การคำนวณช่วงอายุของแต่ละคนว่าจะอยู่ได้นานเท่าไร ต้องคิดถึงปัจจัยอื่นด้วย อาทิ นิสัย การกินการอยู่ ปริมาณและความถี่ในการเสพสุรา สูบบุหรี่ วินัยการขับรถ รวมไปถึง ประวัติการแพทย์ของสมาชิกในครอบครัว ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ได้ตัวเลขประมาณการที่แม่นยำพอสมควรและในการวางแผนจัดสรร เงินออมเพื่อเกษียณนี้ เราควรบวกเวลาเพิ่มไว้อีกสัก 5 ปีด้วยนะครับ
ที่นี้เรามาดูตัวแปรตัวที่สองที่ว่ากันว่าลืมไม่ได้เลย ก็เงินเฟ้อยังไงละครับ
แม้จะมีการเตือนกันเรื่องอัตราเงินเฟ้อ แต่สำหรับคนไม่ชอบ คณิตศาสตร์หลายคน ปัจจัยเรื่องนี้มักถูกมองข้ามเข้าข่ายเรื่องเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงสองสามปีนี้ เพราะอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ หากไม่ใช่คุณนายละเอียดก็คงคิดว่าถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายมากกว่าเสียอีก แต่เมื่อคิดให้ถี่ถ้วนจะพบว่าตัวเลขที่ว่าจิ๊บจ้อย นี้มีมูลค่าไม่น้อยเลยและเพื่อเห็นภาพอย่างชัดเจน เรามาคำนวณมูลค่า (เงิน) ที่หายไปเพราะอัตราเงินเฟ้อ ไปพร้อมๆ กับเพื่อนผม คุณนายละเอียดกันนะครับ
คุณนายละเอียดอายุ 35 ปี มีแผนว่าจะเก็บเงินเตรียมไว้ใช้ ตอนแก่สักเดือนละ 40,000 บาท ซึ่งเธอมีแผนว่าจะเกษียณตาม เกณฑ์คือ 65 ปี ตามหลักการคำนวณในขั้นประถม เธอจะมีเวลาทำงาน อีก 30 ปี ทีนี้เธอก็ใช้คณิตศาสตร์ที่สูงอีกนิดมาคิด คำนวณว่าด้วยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี มูลค่าเงิน 40,000 บาท ในวันนี้ของเธอจะเป็นเท่าไรในอีกสามสิบปีข้างหน้า
16,000 บาท คือคำตอบที่ได้ (คุณนายละเอียดถึงกับถามหา ยาดม) เหลือเงินให้ใช้เพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของที่วางแผนเอาไว้และสำหรับคุณนายละเอียดที่ละเอียดสมชื่อ เธอวางแผนไว้ว่าจะอยู่ยาวไป จนถึงอายุ 85 ปี เธอจึงคำนวณต่อไปอีกและเมื่อถึงตอนนั้น (ในปีที่เธอ มีอายุครบ 85 ปี) เงิน 40,000 บาท จะลดค่าลงเหลือเพียง 8,700 บาทเท่านั้น (คราวนี้คุณนายละเอียดเรียกหายาหอมเลยละครับ)
มูลค่าที่ลดลงนี้คิดจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ (มาก) เพียง 3 เปอร์เซ็นต์ ต่อปีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระหว่าง 5-6 เปอร์เซ็นต์มากกว่า
บทสรุป
ในการวางแผนจัดสรรกำหนดวงเงินที่จะออม เพื่อใช้ในบั้นปลาย ชีวิต จะชัดเจนขึ้นเมื่อเรานำตัวแปรทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นอายุ ระยะเวลา (ช่วงเวลาที่คาดว่าจะยังคงอยู่หลังเกษียณ) และอัตราเงินเฟ้อมา คำนวณอย่างเป็นเรื่องเป็นราวซึ่งเราอาจจะพบว่าตัวเลขที่เป็นผลลัพธ์ อาจพุ่งเลย 7 หลัก แม้ว่าจะมีแผนการใช้ชีวิตที่สมถะประหยัดที่สุด แล้วก็ตาม (เถอะ) ตัวเลขที่ได้อาจทำให้เราเสียศูนย์ เพราะคิดไปว่า ยุทธศาสตร์การออมที่หินที่สุดแล้ว เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ดูว่าจะสูงเกินกำลังจะไขว่คว้า
แต่ก็อย่าท้อเพราะยังมีหลายวิธีที่ช่วยได้ อาทิ ปรับลดมาตรฐาน ชีวิตในช่วงหลังเกษียณลงบ้าง ยืดอายุการทำงานให้นานขึ้นอีกนิด หรือ อาจจะวางแผนธุรกิจหางานเสริมทำในช่วงหลังเกษียณแล้วก็ได้นี่ครับ
จาก http://www.finansa-asset.com/print/th_re_article4.asp

*******************************************************


ทำเงิน 50000 ลงทุน ให้เป็นเงินล้าน

กำไร เดือนละ 5%
เดือนที่ 1 50,000.00 จะได้กำไร = 2,500.00
เดือนที่ 2 52,500.00 จะได้กำไร = 2,625.00
เดือนที่ 3 55,125.00 จะได้กำไร = 2,756.25
เดือนที่ 4 57,881.25 จะได้กำไร = 2,894.06
เดือนที่ 5 60,775.31 จะได้กำไร = 3,038.77
เดือนที่ 6 63,814.08 จะได้กำไร = 3,190.70
เดือนที่ 7 67,004.78 จะได้กำไร = 3,350.24
เดือนที่ 8 70,355.02 จะได้กำไร = 3,517.75
เดือนที่ 9 73,872.77 จะได้กำไร = 3,693.64
เดือนที่ 10 77,566.41 จะได้กำไร = 3,878.32
เดือนที่ 11 81,444.73 จะได้กำไร = 4,072.24
เดือนที่ 12 85,516.97 จะได้กำไร = 4,275.85
เดือนที่ 13 89,792.82 จะได้กำไร = 4,489.64
เดือนที่ 14 94,282.46 จะได้กำไร = 4,714.12
เดือนที่ 15 98,996.58 จะได้กำไร = 4,949.83
เดือนที่ 16 103,946.41 จะได้กำไร = 5,197.32
เดือนที่ 17 109,143.73 จะได้กำไร = 5,457.19
เดือนที่ 18 114,600.92 จะได้กำไร = 5,730.05
เดือนที่ 19 120,330.96 จะได้กำไร = 6,016.55
เดือนที่ 20 126,347.51 จะได้กำไร = 6,317.38
เดือนที่ 21 132,664.89 จะได้กำไร = 6,633.24
เดือนที่ 22 139,298.13 จะได้กำไร = 6,964.91
เดือนที่ 23 146,263.04 จะได้กำไร = 7,313.15
เดือนที่ 24 153,576.19 จะได้กำไร = 7,678.81
เดือนที่ 25 161,255.00 จะได้กำไร = 8,062.75
เดือนที่ 26 169,317.75 จะได้กำไร = 8,465.89
เดือนที่ 27 177,783.63 จะได้กำไร = 8,889.18
เดือนที่ 28 186,672.82 จะได้กำไร = 9,333.64
เดือนที่ 29 196,006.46 จะได้กำไร = 9,800.32
เดือนที่ 30 205,806.78 จะได้กำไร = 10,290.34
เดือนที่ 31 216,097.12 จะได้กำไร = 10,804.86
เดือนที่ 32 226,901.97 จะได้กำไร = 11,345.10
เดือนที่ 33 238,247.07 จะได้กำไร = 11,912.35
เดือนที่ 34 250,159.43 จะได้กำไร = 12,507.97
เดือนที่ 35 262,667.40 จะได้กำไร = 13,133.37
เดือนที่ 36 275,800.77 จะได้กำไร = 13,790.04
เดือนที่ 37 289,590.81 จะได้กำไร = 14,479.54
เดือนที่ 38 304,070.35 จะได้กำไร = 15,203.52
เดือนที่ 39 319,273.86 จะได้กำไร = 15,963.69
เดือนที่ 40 335,237.56 จะได้กำไร = 16,761.88
เดือนที่ 41 351,999.44 จะได้กำไร = 17,599.97
เดือนที่ 42 369,599.41 จะได้กำไร = 18,479.97
เดือนที่ 43 388,079.38 จะได้กำไร = 19,403.97
เดือนที่ 44 407,483.35 จะได้กำไร = 20,374.17
เดือนที่ 45 427,857.51 จะได้กำไร = 21,392.88
เดือนที่ 46 449,250.39 จะได้กำไร = 22,462.52
เดือนที่ 47 471,712.91 จะได้กำไร = 23,585.65
เดือนที่ 48 495,298.55 จะได้กำไร = 24,764.93
เดือนที่ 49 520,063.48 จะได้กำไร = 26,003.17
เดือนที่ 50 546,066.66 จะได้กำไร = 27,303.33
เดือนที่ 51 573,369.99 จะได้กำไร = 28,668.50
เดือนที่ 52 602,038.49 จะได้กำไร = 30,101.92
เดือนที่ 53 632,140.41 จะได้กำไร = 31,607.02
เดือนที่ 54 663,747.43 จะได้กำไร = 33,187.37
เดือนที่ 55 696,934.81 จะได้กำไร = 34,846.74
เดือนที่ 56 731,781.55 จะได้กำไร = 36,589.08
เดือนที่ 57 768,370.62 จะได้กำไร = 38,418.53
เดือนที่ 58 806,789.15 จะได้กำไร = 40,339.46
เดือนที่ 59 847,128.61 จะได้กำไร = 42,356.43
เดือนที่ 60 889,485.04 จะได้กำไร = 44,474.25
เดือนที่ 61 933,959.29 จะได้กำไร = 46,697.96
เดือนที่ 62 980,657.26 จะได้กำไร = 49,032.86
เดือนที่ 63 1,029,690.12 จะได้กำไร = 51,484.51
เดือนที่ 64 = 1,081,174.63 จะได้กำไร = 54,058.73
เดือนที่ 65 = 1,135,233.36 จะได้กำไร = 56,761.67
เดือนที่ 66 = 1,191,995.03 จะได้กำไร = 59,599.75
เดือนที่ 67 = 1,251,594.78 จะได้กำไร = 62,579.74
เดือนที่ 68 = 1,314,174.52 จะได้กำไร = 65,708.73
เดือนที่ 69 = 1,379,883.24 จะได้กำไร = 68,994.16
เดือนที่ 70 = 1,448,877.41 จะได้กำไร = 72,443.87
เดือนที่ 71 = 1,521,321.28 จะได้กำไร = 76,066.06
เดือนที่ 72 = 1,597,387.34 จะได้กำไร = 79,869.37
เดือนที่ 73 = 1,677,256.71 จะได้กำไร = 83,862.84
เดือนที่ 74 = 1,761,119.54 จะได้กำไร = 88,055.98
เดือนที่ 75 = 1,849,175.52 จะได้กำไร = 92,458.78
เดือนที่ 76 = 1,941,634.30 จะได้กำไร = 97,081.71
เดือนที่ 77 = 2,038,716.01 จะได้กำไร = 101,935.80
เดือนที่ 78 = 2,140,651.81 จะได้กำไร = 107,032.59
เดือนที่ 79 = 2,247,684.40 จะได้กำไร = 112,384.22
เดือนที่ 80 = 2,360,068.62 จะได้กำไร = 118,003.43
เดือนที่ 81 = 2,478,072.05 จะได้กำไร = 123,903.60
เดือนที่ 82 = 2,601,975.66 จะได้กำไร = 130,098.78
เดือนที่ 83 = 2,732,074.44 จะได้กำไร = 136,603.72
เดือนที่ 84 = 2,868,678.16 จะได้กำไร = 143,433.91
เดือนที่ 85 = 3,012,112.07 จะได้กำไร = 150,605.60
เดือนที่ 86 = 3,162,717.67 จะได้กำไร = 158,135.88
เดือนที่ 87 = 3,320,853.56 จะได้กำไร = 166,042.68
เดือนที่ 88 = 3,486,896.23 จะได้กำไร = 174,344.81
เดือนที่ 89 = 3,661,241.05 จะได้กำไร = 183,062.05
เดือนที่ 90 = 3,844,303.10 จะได้กำไร = 192,215.15
เดือนที่ 91 = 4,036,518.25 จะได้กำไร = 201,825.91
เดือนที่ 92 = 4,238,344.17 จะได้กำไร = 211,917.21
เดือนที่ 93 = 4,450,261.37 จะได้กำไร = 222,513.07
เดือนที่ 94 = 4,672,774.44 จะได้กำไร = 233,638.72
เดือนที่ 95 = 4,906,413.16 จะได้กำไร = 245,320.66
เดือนที่ 96 = 5,151,733.82 จะได้กำไร = 257,586.69
เดือนที่ 97 = 5,409,320.51 จะได้กำไร = 270,466.03
เดือนที่ 98 = 5,679,786.54 จะได้กำไร = 283,989.33
เดือนที่ 99 = 5,963,775.87 จะได้กำไร = 298,188.79
เดือนที่ 100 = 6,261,964.66 จะได้กำไร = 313,098.23
เดือนที่ 101 = 6,575,062.89 จะได้กำไร = 328,753.14
เดือนที่ 102 = 6,903,816.04 จะได้กำไร = 345,190.80
เดือนที่ 103 = 7,249,006.84 จะได้กำไร = 362,450.34
เดือนที่ 104 = 7,611,457.18 จะได้กำไร = 380,572.86
เดือนที่ 105 = 7,992,030.04 จะได้กำไร = 399,601.50
เดือนที่ 106 = 8,391,631.54 จะได้กำไร = 419,581.58
เดือนที่ 107 = 8,811,213.12 จะได้กำไร = 440,560.66
เดือนที่ 108 = 9,251,773.77 จะได้กำไร = 462,588.69
เดือนที่ 109 = 9,714,362.46 จะได้กำไร = 485,718.12
เดือนที่ 110 = 10,200,080.59 จะได้กำไร = 510,004.03
เดือนที่ 111 = 10,710,084.62 จะได้กำไร = 535,504.23
เดือนที่ 112 = 11,245,588.85 จะได้กำไร = 562,279.44
เดือนที่ 113 = 11,807,868.29 จะได้กำไร = 590,393.41
เดือนที่ 114 = 12,398,261.70 จะได้กำไร = 619,913.09
เดือนที่ 115 = 13,018,174.79 จะได้กำไร = 650,908.74
เดือนที่ 116 = 13,669,083.53 จะได้กำไร = 683,454.18
เดือนที่ 117 = 14,352,537.70 จะได้กำไร = 717,626.89
เดือนที่ 118 = 15,070,164.59 จะได้กำไร = 753,508.23
เดือนที่ 119 = 15,823,672.82 จะได้กำไร = 791,183.64
เดือนที่ 120 = 16,614,856.46 จะได้กำไร = 830,742.82

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

วันนี้เข้าไปอ่าน mail ที่สมัคร google adsense

ก็ดีใจ เหอๆนึกว่าทาง google จะไม่ให้ผ่านกับเวปเล็กๆแบบนี้ก็สมัคร google adsense ไปแต่ไม่รู้ทาง googleจะอนุมัติหรือไม่ พอครบตามจำนวนวันที่กำหนดเข้าไปดูใน mail โอ้ว อนุมัติด้วยดีใจจัง แต่ไม่รู้ว่ากจะเอา google adsense ใส่ยังไงหว่ามือใหม่หัดทำ อิอิ

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

ตระหนักถึง ฮวงจุ้ย

วิธีแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ย
1. สามี-ภรรยามักทะเลาะเบาะแว้ง
วิธีแก้เคล็ด
หาเตียงทรงขอบมนมาใช้ อย่าใช้เตียงสี่เหลี่ยมที่มีมุมขอบเตียงเป็นมุมแหลมคม ถ้าเตียงมีขนาดใหญ่ก็ต้องใช้ที่นอนขนาดใหญ่ อย่าใช้ฟูกหรือที่นอน 2 ชิ้นมาวางชิดกันการใช้เตียงทรงกลม หรือเตียงขอบมนจะขจัดปัญหาการกระทบกระทั่งของคู่สมรส ทำให้มีความรักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น
2. ความสัมพันธ์ไม่งอกงาม
วิธีแก้เคล็ด
หลายคู่อยู่กันหลายปียังมีแต่เรื่องไม่เข้าใจกัน ความสัมพันธ์ยังคลุมครือไม่ผูกพันแน่นแฟ้ม เมื่อตรวจดูริมหน้าต่างห้องนอนก็เห็นต้นไม้ยืนแห้งเหี่ยว ดังนั้นต้องแก้ไขด้วยการตัดไม้ยืนต้นที่บริเวณหน้าบ้านและริมหน้าต่างห้องนอนออกเสีย
ตามบริเวณหน้าบ้านและริมหน้าต่างห้องนอน ต้องปลูกต้นไม้ ดอกไม้ที่มีใบสมบูรณ์หรือมีดอกสวยงามและมีกลิ่นหอม จึงจะส่งผลให้คู่สามี- ภรรยามีความรักและเข้าอกเข้าใจกันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
3.การงานไม่ก้าวหน้า
วิธีแก้เคล็ด
ให้ตั้งโต๊ะทำงานไว้ยังตำแหน่งโชค คือจุดที่เป็นเส้นทแยงมุมกับประตูห้อง ตั้งโต๊ะให้อยู่ตรงมุมด้านใน เมื่อทำงานสามารถมองเห็นประตูและผู้เข้า-ออกได้สะดวก เก้าอี้ต้องหันผิงผนังหรือหรือตู้เอกสาร จะได้มีความมั่นคงในตำแหน่ง มีอำนาจบารมีและมีแต่ความเจริญก้าวหน้า
4.ขาดเกียรติยศชื่อเสียง
วิธีแก้เคล็ด
ให้หันหัวเตียงไปทางทิศใต้ การตั้งโต๊ะก็ให้ตั้งโต๊ะในจุดที่เป็นทิศใต้ แล้วหันหน้าไปสู่ทิศเหนือหรือตะวันออกก็ได้
การตั้งโต๊ะในทิศใต้หรือหันหัวเตียงไปทางทิศใต้ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างงดงาม จะอุดมด้วยเกียรติยศและชื่อเสียง ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์โชติช่วงในทุกด้าน
5. ความรักง่อนแง่น
วิธีแก้เคล็ด
ให้ปลูกไผ่หรือไม้ยืนต้นอื่น ๆ ที่มีใบสดเขียวอุดมสมบูรณ์ดี ปลูกเป็นแนวริมรั้วหน้าบ้านและข้างบ้านให้ครึ้ม
ยิ่งถ้าเมื่ออยู่นอกบ้านแล้วมองเข้ามาไม่ค่อยเห็นตัว บ้านได้ถนัดยิ่งถือว่าดี จะส่งผลให้คู่สามี-ภรรยารักใคร่ผูกพันมั่นคง ฐานะความเป็นอยู่ในบ้านก็จะมั่งมีศรสุข
6.คู่สามี-ภรรยา ไม่รวย
วิธีแก้เคล็ด
ให้หาบ้านที่มีลักษณะอยู่บนเนิน หรือบนพื้นที่ที่มีความสูงกว่าพื้นถนนทั่วไปสักพอประ มาณ ถ้าอาศัยอยู่ในบ้านเช่นนี้จะส่งผลให้ดวงชะตาดี มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยได้เร็ว ทำกิจสิ่งใดก็จะสำเร็จราบรื่นได้ดี ความสัมพันธ์ของคู่สามี-ภรรยามั่นคงยืนนานอีกด้วย
ถ้าหาบ้านอยู่อาศัยในลักษณะนี้ไม่ได้ ก็ให้ขุดสระน้ำปลูกบัวทางซ้ายมือของตัวบ้าน (ยืนอยู่ในบ้าน หันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน)


7.ชีวิตแห้งแล้ง
ความเป็นอยู่ในบ้านมิได้ลำบากมาก แต่จิตใจแห้งแล้งขาดชีวิต ชีวา บางครั้งเงินทองก็ติดขัดไม่ราบรื่น คนในบ้านไม่มีความสดชื่น กระตือรือร้น
วิธีแก้เคล็ด
ให้เลี้ยงปลาตู้สวยงามประดับบ้าน เลือกให้มีปลาเงิน-ปลาทอง ร่วมด้วยยิ่งดี จำนวนปลาที่จะเลี้ยงควรเป็น 6 ตัว 8 ตัว หรือ 9 ตัว ถือว่าเป็นมงคล คนในบ้านจะมีจิตใจแจ่มใสขึ้น ฐานะการเงินก็จะดีขึ้น มีโชคมีลาภไม่ขาด แต่ต้องดูแลตู้ปลาให้สะอาดสดใสอยู่เสมอ
8.มีบางอย่างถ่วงความเจริญ
วิธีแก้เคล็ด
ให้จัดวางข้าวของเครื่องเรือนเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าให้มีข้าวของเครื่องเรือนเครื่องใช้ต่างๆ วางรกระเกะระกะ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นทางเดินไปมาภายในบ้านควรจัดให้กว้างขวางสามารถเดินไปมาได้สะดวก ไม่อึดอัดเพราะมีสิ่งกีดขวาง
ที่ว่าทางเดินต้องปัดกวาดให้สะอาดอยู่เสมอ ข้าวของเครื่องเรือนมีน้อยชิ้นยิ่งดี สิ่งของรก ๆ ให้เก็บใส่กล่องเสีย เพื่อให้ฐานะความเป็นอยู่มีความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภเข้าบ้านไม่ขาด ทำอะไรก็ราบรื่นปลอดโปร่งดีเหมือนไม่มีอะไรมาฉุดรั้ง หรือถ่วงความเจริญไว้ เพราะจุดแห่งโชคทรัพย์ไม่ถูกปิดบัง
9.คนในบ้านไม่สดชื่น
วิธีแก้เคล็ด
ถ้าอยากให้คนในบ้านอยู่อาศัยอย่างมีความสุขสันต์ ชีวิตเต็มไปด้วยความรื่นเริงเบิกบานสดชื่น ไม่ต้องมีแต่เรื่องหดหู่เป็นกังวล ควรหารูปภาพอันสดใสของทุ่งหญ้าในฤดูร้อน ทิวเขาในยามเช้า แม่น้ำ ทะเล หรือน้ำตกท่ามกลางแสงตะวันที่อบอุ่นสดใสมาติดแขวนไว้ ที่ผนังห้องรับแขก
อาจหารูปภาพฤดูใบไม้ผลิมาประดับผนังก็ได้ ควรเลือกภาพที่มีบรรยากาศธรรมชาติ มีไม้ดอกไม้ใบสวยๆ และอุดมสมบูรณ์ เพราะยิ่งจะเสริมส่งดวงโชคและทรัพย์ของคนในบ้านอีกด้วย
10.เงินทองไม่เข้าบ้าน
วิธีแก้เคล็ด
หาตำแหน่งทรัพย์ของบ้านหรือห้องทำงาน-ร้านค้า คือตำแหน่งที่เป็นเส้นทแยงมุมกับประตู แล้วตั้งชั้นที่มุมนั้น วางรูปปั้น ฮก ลก ซิ่ว หรือแมวกวัก หรือตั้งกระถางต้นวาสนา ต้นว่านกวนอิม หรือจะตั้งแจกันดอกไม้ธรรมดาก็ได้ แต่ต้องดูแลปัดกวาดมุมนี้ให้สะอาดอยู่เสมอ
11.สามี-ภรรยาไม่ผูกพันปรองดอง
วิธีแก้เคล็ด
ขุดบ่อหรือสระน้ำเล็กๆ ที่หน้าบ้านบ่อหรือสระน้ำนี้ควรเป็นรูปลักษณะคล้ายถั่วดำก็ได้ หรือเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งวงกลมก็ได้(แต่ต้องหันส่วน โค้งนูนเข้าตัวบ้าน หันส่วนเว้าออก) ในสระปลูกกอบัว เลี้ยงปลาหางนกยูง หรือทำเป็นน้ำพุก็ได้ อย่าลืมหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดด้วย
12.ย้ายเข้าบ้านที่ผู้อื่นเคยอาศัยอยู่อาจอับโชค
วิธีแก้เคล็ด

ให้นำหิ้งพระหรือแท่นบูชาย้ายเข้าสู่ตัวบ้านหลังนั้น เป็นสิ่งแรก ตัดเล็มต้นไม้ใบหญ้าในอาณาบริเวณบ้านที่รกครึ้ม นำกระถางต้นไม้ใบไม้ใหม่ๆ สดๆไปปลูก ไปจัดวางอย่างน้อย 3-4 กระถาง ปัดกวาดขัดถูบ้านให้สะอาดทุกห้อง ขัดล้างทางเดินนอกบ้านให้สะอาด นำกำปั่นหรือกล่องเล็กๆ ใส่เงินทองแก้วแหวนพร้อมด้วยข้าวสารใหม่ ย้ายเข้าบ้านเป็นสิ่งที่ 2 รองจากพระและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำดอกไม้ พวงมาลัย และเครื่องหอมต่างๆ เข้าบ้านก่อนย้ายข้าวของเครื่องเรือนอื่นๆ เปิดไฟให้สว่าง เปิดเพลงบรรเลงจังหวะเบิกบานสดชื่นเบา ๆ ขณะย้ายข้าวของเข้าบ้านอย่าลืมไหว้เจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนด้วย เคล็ดวิธีทุกข้อที่กล่าวมาจะเป็นการปัดเป่าขับไล่พลังงานที่ไม่ดีออกไป เป็นการเสริมมงคลให้แก่บ้าน
13.ตั้งหิ้งพระหรือแท่นบูชาไม่ดี ฐานะความเป็นอยู่เสื่อมถอย
วิธีแก้เคล็ด
หิ้งพระหรือแท่นบูชาต่างๆ ต้องตั้งในตำแหน่งมงคลตามหลักวิชาฮวงจุ้ย ถ้าตั้งอยู่ใต้คาหรือใต้บันไดถือว่าไม่ดี ต้องรีบย้ายตำแหน่งใหม่ ถ้าตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีคนเดินข้ามไปมาอยู่ชั้นบนหรือเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบเห็นได้เลยถือว่าไม่ดี ระวังอย่าตั้งวางไว้หันหน้าเข้าหาห้องน้ำ อย่าตั้งไว้ในห้องนอนของคู่สามี-ภรรยา อย่าตั้งเหนือของร้อน เช่น เตาไฟหรือตู้เย็น ไม่สมควรตั้งไว้เหนือประตูทางเข้าบ้านหรือสำนักงาน
14.อยากเพิ่มพูนโชค
วิธีแก้เคล็ด
ให้ดูแลฟื้นฟูบรรดาไม้ดอก-ไม้ใบในอาณาบริเวณบ้านให้ดี ดูว่าต้นใดเหี่ยวเฉาโรยราก็หาปุ๋ยมาใส่ หมั่นพรวนดินรดน้ำ ลิดใบที่แห้งเหลืองทิ้งเสีย อย่าปล่อยให้มีต้นไม้เฉาตายอยู่ในบ้าน เพราะจะทำให้โชคลาภเสื่อมถอย ถ้าต้นใดตายแล้วก็นำไปทิ้งหรือทำเป็นปุ๋ย หาไม้ดอกไม้ใบสีสดๆ มาปลูกใหม่ ถ้าไม่มีเนื้อที่พอจะปลุกต้นไม้ก็ให้หาไม้กระถางมาตั้งวางในบ้านตามมุมห้องรับแขก ริมหน้าต่างหรือระเบียงก็ได้
15.ค้าขายไม่ดี
วิธีแก้เคล็ด
ติดภาพวาดที่เป็นรูปน้ำตก ทะเล ลำธาร หรือแม่น้ำไว้ที่หลังโต๊ะหรือเคาน์เตอร์เก็บสตางค์ เพื่อให้สายน้ำเรียกโชคลาภเงินทองเข้าร้าน แต่ต้องสังเกตกระแสน้ำในภาพด้วยว่าไหลเข้าโต๊ะหรือไหลเข้าห้องนั้นหรือไม่ ต้องดูมิให้ทิศทางของน้ำไหลออกจากประตูหรือหน้าต่างเป็นอันขาด (ถ้าเป็นบ้าน ให้ติดภาพสายน้ำในห้องรับแขก อย่าติดภาพที่ผนังห้องนอนหรือหลังโต๊ะทำงาน) หาแมวกวักหรือกบ 3 ขา มาตั้งไว้ที่โต๊ะเก็บเงิน หันหน้าของมงคลไปทางหน้าประตู
16.ขาดแคลนเงินทอง
วิธีแก้เคล็ด
หาสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยมาประดับบ้าน เช่น หาภาพวาดหรือลวดลายบนพื้นกระเบื้อง-ผ้าม่าน ที่เป็นรูปดอกไม้ รูประลอกน้ำ รูปกวางมาจัดแต่งบ้าน หา ฮก ลก ซิ่ว มาตั้งไว้บนชั้นในห้องรับแขก เลี้ยงปลาทองในตู้กระจกหรือโถแก้วเพื่อเรียกโชคลาภเงินทอง
17.อยากได้ลูก
วิธีแก้เคล็ด
ถ้าอยากได้ลูกสาว ให้หันเตียงไปทางทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือทิศตะวันตก ถ้าอยากได้ลูกผู้ชาย ให้หันเตียงไปทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก ทิศตะวันออก เฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ การตัดเตียงต้องชิดมุมที่อยู่ในจุดเส้นทแยงมุมกับประ ตูห้อง อย่าตั้งตียงทับหรือตรงกับตำแหน่งของเตาไฟที่อยู่ในครัวชั้นล่าง ภายในห้องนอนควรจัดบรรยากาศให้อบอุ่นอ่อนหวาน ใช้โคมไฟหรี่แทนไฟสว่างจ้า และไม่ควรมีข้าวของจัดวางรกเลอะเทอะ
18.มีปัญหาเรื่องเงินทอง
วิธีแก้เคล็ด
จัดห้องครัวให้สะอาดและเป็นระเบียบ บริเวณเตาไฟที่ทำครัวต้องสะอาดและอยู่ห่างจากอ่างน้ำ มุมทำครัวที่สะอาดจะเรียกโชคลาภเงินทองเข้าบ้าน ในทางตรงข้าม ครัวที่สกปรก เตาไฟที่อยู่ใกล้น้ำ จะส่งผลให้เงินทองรั่วไหล คนในบ้านมักแตกแยกและมีเรื่องขัดแย้งความวุ่นวายเสมอ
19.สามี-ภรรยา ห่างเหิน
วิธีแก้เคล็ด
จัดห้องนอนให้สะอาดและมีบรรยากาศที่รื่นรมย์ เครื่องนอนควรใช้สีอ่อน ๆ สบายตา หาดอกไม้และโคมไฟสีอ่อนมาไว้ที่โต๊ะใกล้เตียง ตัดรูปภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสบายตาไว้ที่ข้างฝา อย่านำโต๊ะทำงานหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มาวางใกล้เตียงมากนัก ห้องนอนที่รกเลอะเทอะและเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ มากมาย ถือว่าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย จะส่งผลให้คู่สามี-ภรรยา หงุดหงิดและขาดอารมณ์หวานชื่นในรัก
20.กองขยะที่รกร้าง
หน้าบ้านเป็นบริเวณที่รกร้างว่างเปล่า มีกองไม้ กองหินดินทรายกอง อยู่เกะกะเหมือนกองขยะ หรือมีต้อนหญ้าขึ้นรกไปหมด ถือว่าอัปมงคล จะส่งผลให้เจ็บป่วยบ่อย อาจเป็นโรคตาหรือเกี่ยวกับภายใน
วิธีแก้เคล็ด
ให้ปลุกไผ่กอใหญ่ๆ ไว้ที่หน้าบ้าน แล้วปลูกไม้พุ่มเป็นแนวกั้นบังตาไว้ หรือลงทุนให้คนมาขนขยะที่อยู่ตรงข้ามหน้าบ้านออกไปเสียให้หมด
21.ห้องรับแขกเล็ก
ห้องรับแขกนั้นเป็นอาณาบริเวณที่โชคลาภจะไหลเข้ามา ถ้าห้องรับแขกกว้างขวางปลอดโปร่ง ชี่หรือพลังที่ดีแห่งจักรวาลก็จะไหลเวียนเข้ามาและกระจายตัวได้อย่างสะดวก ถ้าห้องรับแขกเล็กก็ต้องจัดข้างของและเครื่องเรือนให้ดี ถ้ามีข้าวของรกและแน่นจนเดินเหินไปมาไม่ค่อยสะดวก จะทำให้บ้านขาดแคลนโชค
วิธีแก้เคล็ด
จัดห้องรับแขกใหม่ เก็บข้าวของไม่จำเป็นไว้ในกล่อง ไม่ต้องนำมาตั้งวาง วางเก้าอี้รับแขกชิดมุมห้อง จัดแต่งให้เหลือเนื้อที่เดินเหินไปมาได้สะดวกที่สุดเป็นใช้ได้

วิธีแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ย ภาค 2 ต่อเลยครับ
22.สะพาน

บริเวณหน้าบ้าน มิว่าจะอยู่ในทิศทางตรงข้ามกับหน้าบ้านหรือเยื้องไปเล็กน้อยก็ตาม หากมีสะพานลอยข้ามถนน หรือสะพานรถวิ่งทอดมาในลักษณะพุ่งใส่ตัวบ้านเราพอดี จะมีผลให้คนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย หรือมีเรื่องหงุดหงิดรำคาญใจบ่อยๆ จนหมดสุข ทำมาค้าขายใดๆ ก็ยากจะรุ่งเรือง

วิธีแก้เคล็ด

ให้ทำมาค้าประเภทเนื้อสัตว์ ค้าของมีคม หรืออาวุธต่างๆ หรือของที่ต้องใช้มีดคมๆอยู่เสมอ ถ้าขายของอ่อนนุ่มหรือของกินจะรุ่งเรืองยาก ถ้ามิได้ทำการค้าก็ให้ติดยันต์โป๊วข่วยไว้หน้าบ้านบน ชั้น 2



23.ทางสามแพร่ง

บ้านทุกหลังที่ตั้งรับทางสามแพร่งมักมีปัญหา เพราะจั้งรับพลังที่พุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรงตลอดเวลา ความเป็นอยู่บ้านจึงมีแต่เรื่องเดือดร้อน ธุรกิจการงานล้มเหลว คนในบ้านแตกแยก เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ มีแต่เคราะห์มีแต่ภัยไม่หยุด

วิธีแก้เคล็ด

จำเป็นต้องแก้เคล็ดโดยด่วน หาสิงห์คาบดาบมาติดไว้ที่หน้าบ้าน ติดยันต์หินภูเขาหรือยันต์ 8 ทิศ หน้าประตูเข้าตัวบ้าน ติดระฆังลมหรือลูกแก้วคริสตัส หรือปลูกไผ่เป็นแนวบังตาหน้าบาน



24.ถนนล้อมรอบ

บ้านที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง กินเนื้อที่มาก ข้างบ้านจึงอาจล้อมด้วยถนน 2 ด้าน 3 ด้าน หรืออาจ 4 ด้าน ถือว่าไม่ดี คนในบ้านจะมีแต่เรื่องถูกรบกวน สิ้นเปลืองเวลาและเงินทองไปกับการแก้ไขปรับปรุงเรื่องยุ่งต่างๆ

วิธีแก้เคล็ด

ให้ปลุกปาล์ม สน หรือต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่าบ้านตั้งไว้รอบๆ บ้าน (ริมรั้วข้างในบริเวณบ้านหรือข้างนอกก็ได้) ทุกด้าน ยกเว้นด้านหน้าบ้าน



25.บ้านร้าว

หน้าบ้านมีตึกร้าวหรือบ้านร้าวหันหน้าเข้าหา ถือว่าร้ายนัก เพราะบ้านของเราก็จะได้รับแต่พลังร้าย ๆ

วิธีแก้เคล็ด

ให้ปลุกต้นไม้เป็นแนวกั้นบังตาไว้ และแขวนยันต์โป๊ยข่วยแก้เคล็ดด้วย



26.วัด ศาลาเจ้า สุสาน โบสถ์

ถ้ามีวัด ศาลเจ้า หรือสุสานอยู่ตรงข้ามบ้าน หรือยู่ข้างบ้าน เรียกว่าถ้าเปิดประตูก็มองเห็น เปิดหนเต่างออกไปก็มองเห็น ถือว่าร้ายนัก พลังร้ายจะมีอิทธิพลต่อคนในบ้าน ทำให้เกิดความหายนะ ความเสื่อมถอยต่างๆ และความตาย

วิธีแก้เคล็ด

ถ้าย้ายบ้านได้ก็สมควรย้าย แต่ถ้าย้ายไม่ได้ ให้ปลุกต้นไม้ใหญ่ๆ เป็นแนวใกล้ๆ กัน เพื่อกั้นบังตาไว้ แล้วแขวนยันต์จีนและสิงห์คาบดาบไว้หน้าบ้าน แขวนระฆังลมเป็นแนวกั้นพลังร้าย 9 อัน



27.มุมเว้าแหว่งหายไป

สำรวจตัวบ้านหรือลองวาดแปลนบ้านในกระดาษ ถ้าพบว่ามีมุมใดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดเว้าแหว่งขาดหายไปถือว่าเป็นอันตราย จะมีผลร้ายต่อคนในบ้านในลักษณะแตกต่างกันไป เช่น ถ้าเว้าแหว่งทางทิศเหนือ อุปสรรคปัญหาจะเกิดแก่คู่สามี-ภรรยา

วิธีแก้เคล็ด

ให้แขวนลูกแก้วคริสตัล หรือระฆังลมที่มุมตรงข้ามของส่วนที่ขาดหายไป หรือนำกระถางต้นไม้มาตั้งเรียงเป็นแนวเหมือนจะสร้างผนังบ้านให้มุมนั้นได้กลายเป็นส่วนที่เต็มอย่างสมบูรณ ์



28.ต้นไม้ใหญ่

บริเวณหน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่ ๆ เรียงรายตามแนวรั้วหน้าบ้านหรือยืนต้นอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านถือว่าไม่ดี ต้นไม้ใหญ่หากขึ้นอยู่ข้างบ้านและหลังบ้านจึงจะดี เพราะให้พลังปกปักรักษาและเกื้อหนุน

วิธีแก้เคล็ด

ถ้าสามารถตัดได้ก็สมควรตัด แต่มิอาจทำได้ก็ไม่เป็นไร ให้หาประทัดจีน 8 ดอก ไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าบ้านที่สุด



29.ต้นไม้กลางบ้าน

ภายในบริเวณบ้าน ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ยืนต้นอยู่ตรงกลางที่ดิน หรือกลางลายบ้าน สมควรตัดออก เพราจะทำให้เกิดความติดขัดในหลายๆด้าน

วิธีแก้เคล็ด

หาประทัดจีน 5 ดอก มาผูกติดไว้ที่ต้นไม้นั้น หรือตัดต้นไม้ออกเสียดายจะต้องกราบไหว้ขอขมาต้นไม้เสียก่อนก็ดี



30.หนามต้นไม้

อย่าปลูกต้นไม้ชนิดใดๆ ก็ตามลำต้นมีหนามแหลม (ยกเว้นดอกกุหลาบ) เพราะจะส่งผลให้คู่สามี-ภรรยาหรือสมาชิกในบ้านมีแต่เรื่องบาดหมางกัน และยังทำให้คนในบ้านอารมณ์แปรปรวนง่ายอีกด้วย

วิธีแก้เคล็ด

ให้จัดการถอนและตัดไม้ดอก-ไม้ใบต่างๆ ที่มีหนามคม ออกไปให้หมด หาไม้มงคลมาปลูกเสริมดวงและเสริมฮวงจุ้ยตามความเหมาะ สม



31.ประตูรั้ว

ประตูทางเข้าออกหน้าบ้านกับประตูทางเข้าตัวบ้าน ถ้าอยู่ในแนวตรงกันหรือเล็งกันพอดี ถือว่าเป็นอัปมงคล ยิ่งถ้าเป็นแนวตรงกับประตูหลังบ้านด้วยยิ่งร้ายใหญ่ ความเป็นอยู่ในบ้านยะวุ่นวายมีแต่ปัญหา เงินทองรั่วไหล คนในบ้านไม่เป็นน้ำใจเดียวกัน

วิธีแก้เคล็ด

หาหระดิ่ง หรือระฆังลม หรือขลุ่ยจีนผูกริบบิ้นแดงผูกไว้บนเพดาน ให้ห้อยลงมาเหนือศีรษะพอสมควร ติดไว้ตรงกลางระหว่างแนวประตูที่เล็งกันพอดี



32.ประตูห้องน้ำ

ประตูห้องน้ำ-ห้องครัวอยู่ในแนวตรงกันพอดี ต้องแก้ไข เพราะห้องน้ำนั้นเป็นธาตุน้ำ ส่วนห้องครัวนั้นเป็นธาตุไฟ

วิธีแก้เคล็ด

ให้หาม่านมู่ลี่มาติดที่หน้าประตูห้องน้ำไว้ เลือกใช้มู่ลี่สีเขียว หรือทาสีเขียวที่ประตูห้องน้ำเลยก็ได้



33.รั้วไม้เลื่อย

บ้านที่ปลูกไม้เถาไม้เลื้อยให้เลื้อยพันรั้วหรือกำแพงบ้านจนดูร่มรื่นและครึ้มไปหมด อาจจะดูสวยดี แต่กลับทำให้ผู้ชายในบ้านมีอารมณ์มุทะลุวู่วาม มีแต่ความดุร้ายโมโหง่ายแม้เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ

วิธีแก้เคล็ด

สมควรปลูกไม้พุ่มที่รั้วบ้านแทนไม้เลื่อย ถ้าจะปลูกไม้เถาไม้เลื้อยก็ควรปลูกตำแหน่งเดียว แล้วทำการซุ้มหรือตัดแต่งให้สวยงามอย่าปล่อยให้เถาไม้พันเลื้อยจนเต็มกำแพง



34.รั้วไม่เท่ากัน

ความสูงของรั้วบ้าน 2 ด้าน (ด้านหน้าบ้าน หรือด้านหน้ากับด้านข้าง) หากไม่เท่ากัน มีด้านหนึ่งด้านใดสูงกว่ากัน ถือว่าผิดฮวงจุ้ย ตนในบ้านจะไม่รักใคร่สามัคคีกัน สามีจะนอกใจ หรือผู้ใหญ่ในบ้านอายุไม่ยืนยาว

วิธีแก้เคล็ด

ถ้าเสริมสร้างรั้วด้านอื่นๆให้มีความสูงทัดเทียมกันไม่ได้ ก็ต้องจัดกอไผ่หรือไม้ใบอื่นๆ ที่ปลูกให้ยืนตรงกันเป็นแนวริมรั้วที่ต่ำกว่า เพื่อให้ดูมีความสูงพอกัน



35.ประตูใกล้กัน

หากเปิดประตูของห้องสองห้องที่อยู่ใกล้กัน แล้วบานประตูเปิดชนกันหรือเหลื่อมล้ำเกยกัน หรือลูกบิดประตูกระทบกันได้ ถือว่าฮวงจุ้ยไม่ดี คนที่อยู่ใน 2 ห้องนั้นจะแตกแยกมีแต่เรื่องบาดหมางต่อกัน

วิธีแก้เคล็ด

ให้เปลี่ยนประตูบานหนึ่งโดยแก้ให้เปิดไปอีกทางหนึ่ง หรือถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ให้ผูกริบบิ้นสีแดงเอาไว้ที่บาน ประตูให้สูงกว่าช่วงไหล่ขึ้นไปเล็กน้อย



36.ประตูเข้าบ้าน

ประตูของรั้วบ้านกับประตูเข้าตัวบ้านควรหันหน้าไปหาทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ว่าประตูรั้วอยู่ทางทิศเหนือ แต่ประตูเข้าบ้านอยู่ทางทิศตะวันออกหรือตะวันตก อย่างนี้ถือว่าไม่ดี อยู่อาศัยในบ้านนี้แล้วหาความเจริญรุ่งเรืองยาก

วิธีแก้เคล็ด

ให้เจาะประตูใหม่ ประตูหน้าบ้านควรหันหน้าอยู่ในทิศทางเดียวกับประตูรั้วเท่านั้น



37.ทางเข้า

บ้านหรือสำนักงานใดหากเปิดประตูเข้าไปแล้ว พบเจอผนังก่อนถือว่าไม่ดีอย่างยิ่ง ทำกิจใดก็มักมีอุปสรรคไม่ราบรื่น

วิธีแก้เคล็ด

ให้ติดกระจกเงาไว้ที่ผนังนั้น หรือติดภาพเขียนแม่น้ำ หรือทุ่งหญ้าอันกว้างขวางร่มรื่นดูสบายตา



38.ประตูห้อง

ประตูห้องต่างๆ ภายในบ้าน ถ้าอยู่เล็งกันหรือหันหน้าประจันตรงกันพอดีจะเป็นผลร้าย ทำให้ผู้อยู่ 2 ห้องนั้นขัดแย้งกัน หรือถ้าห้องนอนมีประตูชนกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัว พอดีก็จะทำให้เงินทองหดหาย สามี-ภรรยา ทะเลาะกันบ่อยหรือเจ็บป่วยบ่อย ๆ

วิธีแก้เคล็ด

ติดลูกศรคริสตัลบนเพดานตรงกึ่งกลางระหว่าง 2 ห้องนั้นหรือติดผ้าม่านลวดลายมงคลที่หน้าประตูห้องใด ห้องหนึ่ง ถ้าประตูห้องนอนตรงกับประตูห้องน้ำ หากระจกเงามาแขวนหน้าประตูห้องน้ำก็ได้



39.ประตู 3 บาน

บ้านที่มีประตูเล็งกัน 3 จุด ถือว่าเป็นอัปมงคลยิ่ง สิ่งที่ดีจะไหลผ่านออกอย่างเร็ว มีผลให้เงินทองรั่วไหล คนในบ้านไม่มีน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

วิธีแก้เคล็ด

ติดผ้าม่านลูกปัดมูลี่ บางจุดตั้งฉากกั้นไว้ ติดระฆังลมแขวนกั้นระหว่างประตู 2 ประตู



40.ประตูกว้างใหญ่

ถ้าประตุห้องใดมีขนาดใหญ่เกินไปจนดูไม่สมส่วนกับห้อง ที่ไม่ได้มีขนาดกว้างใหญ่นัก ถือว่าไม่เป็นมงคลเพราะจะทำให้เคราะห์ร้ายครอบงำคนใน บ้านและมักพลาดโอกาสดี ๆในชีวิตเสมอ

วิธีแก้เคล็ด

ทาสีประตูให้ดูเป็นสีเข้มขึ้น เพื่อให้ประตูดูทึบและเล็กลง หรือหาตู้ใหญ่ๆ 2 ใบ มาตั้งไว้ชิดผนังด้านในห้องด้านใกล้ประตูก็ได้



41.หน้าต่างเลื่อน

หน้าต่างลักษณะเปิดเลื่อนไปด้านข้างหรือเลื่อนขึ้นข้างบน ควรให้มีการเลื่อนได้สุดๆ ถ้าเลื่อนเปิดได้ไม่กว้างมากถือว่าไม่ดี ผู้อยู่อาศัยในบ้านนั้นจะมีความเหนื่อยหน่าย จิตใจไม่แจ่มใสเบิกบานความเจริญก้าวหน้าอยู่ในระดับผลุบๆโผล่ๆ

วิธีแก้เคล็ด

ควรจัดการซ่อมแซมแก้ไขหน้าต่างเปิดเลื่อนได้เต็มที่หรือดัดแปลงเป็นหน้าต่างชนิดเปิดออกไปให้ได้กว้างๆ



42.หน้าต่างกับต้นไม้

เมือเปิดหน้าต่างออกไปแล้ว บานหน้าต่างชนกับกิ่งไม้พอดี ถือว่าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย บ้านที่มีต้นไม้ที่แผ่ก้านสาขามาระหน้าต่างถือกันว่า เป็นบ้านที่คนในบ้านมักจะกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอและ มักมีเหตุภัยให้ต้องตื่นเต้นตกใจกันอยู่เสมอ

วิธีแก้เคล็ด

ให้จัดการตัดกิ่งก้านของต้นไม้ให้เรียบร้อย อย่าให้แผ่กิ่งก้านมาระบานหน้าต่าง ถ้าไม่ชอบตัดต้นไม้และต้นไม้ต้นนี้ค่อนข้างสูงใหญ่ ก็อาจติดระฆังลมไว้ที่หน้าต่างด้วย



43.บันได

เมื่อเปิดประตูเข้าบ้าน หากพบเห็นทางขึ้นบันไดพอดีถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ย บันไดที่ทอดมาตรงกับประตูบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทอง ไม่อยู่ ยากที่จะเรียกเงินเข้าบ้าน แม้หาได้มากเท่าไรก็มีเรื่องให้ไหลออกหมด ผู้อยู่อาศัยชั้นบนก็จะมีแต่ความหมองหม่นเงียบเหงา

วิธีแก้เคล็ด

ตั้งฉากบังตาไว้ หาฉากสวยๆ ลวดลายมีความหมายเป็นมงคลมาตั้งให้บังตาประตุบ้าน ตั้งให้ห่างจากประตูสัก 1-2 เมตร พอให้เข้าออกได้สบาย หรือหาลูกแก้วคริสตัลมาแขวนไว้เพื่อกระจายชี่


วิธีแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ย ภาค 3
44.เพดานหรือบันได

บริเวณทางขึ้น-ลง บันได หรือจุดที่พักกลางบันได หากเพดานเหนือบริเวณนั้นค่อนข้างต่ำมากจนคนตัวสูงรู้ สึกขึ้น-ลง ไม่สะดวก เพราะต้องคอยก้มศีรษะด้วย ถือว่าฮวงจุ้ยไม่ดี คนในบ้านจะมีแต่ความอึดอัดกดดันไม่เป็นสุข

วิธีแก้เคล็ด

ควรติดโคมไฟขาวไว้กลางบันได พอเย็นลงก็เปิดให้สว่างไสวอยู่เสมอ หรืออาจนำกระจกเงาบานใหญ่ๆ มาติดไว้บนผนังข้างบันไดหรือบริเวณที่พักกลางบันไดก็ ได้



45.บันไดวน

บันไดรูปทรงวนนั้นดูสวยงามตามอย่างบ้านสมัยใหม่ แต่กลับจะมีผลไม่ดี

วิธีแก้เคล็ด

ให้ทาสีเขียวอ่อนทั้งบันได หรือปลูกไม้เลื้อยไม้เถาที่เสาหลักหรือแกนของบันได อาจติดกระจกเงาเล็กๆ เสริมที่ใต้บันได หรือจุดหักหมุนของตัวบันไดวนก็ได้



46.ห้องรับแขก-ห้องครัว

เมื่อนั่งอยู่ในห้องรับแขก แล้วมองเห็นเตาหุงหาอาหารหรือมองเห็นมุมครัวได้ชัดเจ น หรือค่อนข้างอยู่ใกล้ชิดกัน ถือว่าไม่ดี คนในบ้านจะมีเรื่องมีราวบ่อยๆ จิตใจผกผันง่าย การเงินมีปัญหา

วิธีแก้เคล็ด

หาฉากมาตั้งกั้นบังตาที่หน้าครัว หรือหากระถางต้นไม้ใบสัก 2-3 กระถางมาจัดวางไว้พอบังตาได้สักหน่อยที่บริเวณหน้าครัว



47.แต่งห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกที่ตกแต่งรกรุงรัง เช่น แขวนรูปภาพต่างๆ ไว้จนเต็มฝาผนังบ้าง ตั้งวางตู้ชั้น และข้าวของต่างๆ จนแน่นเต็มเนื้อที่จนทำให้ดูรกตาหรือนั่งแล้วอึดอัด เดินเหินก็ไม่สะดวกถือว่าผิดฮวงจุ้ย อยู่อาศัยแล้วไม่รุ่งเรือง มีแต่ความวุ่นวายกังวล ขาดความกระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้ชีวิต และสามี-ภรรยามักจะแตกแยก

วิธีแก้เคล็ด

ควรเก็บของรกๆ ทิ้งไป จัดแต่งห้องรับแขกใหม่ให้โปร่งโล่งดูสบายตาและสบายตัว



48.ห้องน้ำรับทางเข้า

หากเดินเข้าในบ้านแล้วสามารถพบเห็นประตูห้องน้ำได้ทันที เพราะห้องน้ำตั้งอยู่ในทิศทางที่รับหรือเผชิญกับประตูเข้าบ้านพอดี ถือว่าเป็นอัปมงคลยิ่งนัก คนในบ้านจะสุขภาพทรุดโทรม การเงินในบ้านก็ติดขัดบ่อยๆ

วิธีแก้เคล็ด

ให้หาฉากแบบ 3 ส่วน มาตั้งบังตาหน้าประตูห้องน้ำไว้ หรือติดกระจกเงาบานใหญ่ที่หน้าบานประตูห้องน้ำ หรือหาม่านลวดลายมงคลมาแขวนไว้หน้าบานประตูห้องน้ำ และให้ปิดประตูห้องน้ำไว้เสมอ



49.ห้องน้ำสุดทาง

ห้องน้ำที่ไปตั้งอยู่สุดทางเดินที่เล็กและแคบ ก็เท่ากับว่าได้รับพลังร้ายง่ายดาย เพราะอยู่ในตำแหน่งคล้ายลูกธนูพุ่งเข้าชนตลอดเวลา จะเป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์ คนในบ้านจะเจ็บไข้ได้ป่วยกันบ่อยๆ ผู้หญิงบ้านนี้จะมีลูกยาก

วิธีแก้เคล็ด

ให้แขวนม่านลูกปัดไว้หน้าบานประตูห้องน้ำ ติดลูกแก้วคริสตัลบนเพดานเหนือทางเดินเพื่อให้ชี่กระจายไหลเวียนได้ดี



50.โถส้วมกับประตู

เมื่อเปิดประตุห้องน้ำไปแล้วพบเจอโถส้วมหันหน้าเข้าหาพอดี หรือหากนั่งบนโถส้วมแล้วหันหน้าเผชิญกับประตูพอดี ถือว่าเป็นอัปมงคล

วิธีแก้เคล็ด

ให้หาฉากหรือม่านพลาสติกมาติดกั้นไว้พอบังตาสักหน่อย



51.ที่ตั้งโถส้วม

สังเกตดุให้ดีว่าตำแหน่งของโถส้วมอยู่ ณ จุดใด แล้วระวังอย่าให้มีการตั้งเตียงโดยหันหัวเตียงมาชิดผนังด้านโถส้วม หรือการจัดวางข้าวของเครื่องเรือนที่ชั้นล่างก็อย่าวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะอาหาร หรือเตาหุงหาอาหารไว้ใต้โถส้วม เพราะจะทำให้คนในบ้านหมดความเจริญก้าวหน้า

วิธีแก้เคล็ด

ถ้าจำเป็นต้องมีข้าวของเครื่องเรือนใดวางอยู่ใต้ห้อง น้ำ โดยเฉพาะใต้จุดที่ตั้งของโถส้วม ก็ให้ตั้งถ้วยเล็กๆ ใส่เกลือวางไว้ข้างใต้โถส้วม หมั่นเปลี่ยนเสมอๆ



52.เตาไฟ-ก๊อกน้ำ

น้ำกับไฟอย่าจัดให้อยู่ใกล้กันเป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตาไฟในครัวต้องดูแลตำแหน่งที่ตั้ง ให้ดี เตาไฟที่อยู่ใกล้ซิงก์หรืออ่างล้างผักล้างจาน ถือว่าไม่เป็นมงคล จะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันได้บ่อยๆ เงินทองรั่วไหลเก็บไม่อยู่ ทำอะไรมักไม่ราบรื่น ไม่มีดชคไม่มีลาภ

วิธีแก้เคล็ด

ต้องจัดเตาหรือส่วนที่ใช้หุงหาอาหารไว้แยกกับส่วนที่ เป็นน้ำถึงแม้ครัวจะเล็กก็ควรแยกเตากับอ่างน้ำให้ห่างกันสักระยะหนึ่ง การหาที่คั่นกลางอาจช่วยไม่ได้มาก ควรแยกให้เด็ดขาดจะดีกว่า



53.เตาไฟหน้าบ้าน

บางบ้านตั้งครัวไว้ในส่วนของตัวบ้าน เมื่อเดินเข้าบ้านหรือนั่งอยู่ในห้องรับแขกสมารถเห็น เตาไฟและการปรุงอาหารได้ชัดเจน ถือเป็นอัปมงคล จะส่งผลให้บ้านมีเรื่องทุกข์ร้อนเสมอ สมาชิกในบ้านไม่ปรองดอง มีเคราะห์มีภัยอยู่เสมอ

วิธีแก้เคล็ด

ให้ย้ายมุมทำครัวไปไว้ส่วนที่ค่อนไปทางครึ่งหลังของตัวบ้าน ถ้าไม่มีห้องครัวโดยเฉพาะ ก็ให้หาฉากมาตั้งไว้เพื่อกั้นมุมครัวให้เป็นสัดเป็นส่วน



54.ลูกศรในครัว

ให้มองดูรอบๆ ห้องครัว หากมีเสาหรือมุมหนึ่งมุมใดที่เป็นมุมเหลี่ยมแหลมคมและพุ่งชี้มาทางจุดที่ตั้งเตาไฟต้องรีบแก้ไขโดยด่วน มิฉะนั้นคนในบ้านจะมีแต่เคราะห์และความตกต่ำ

วิธีแก้เคล็ด

ให้หากระถางต้นไม้มาตั้งบังเสาต้นนั้นเพื่อบังหรือลด คมของมุมแหลมของเสา หรือ อาจติดกระจกเงาบานเล็กๆ ยาวๆ ปิดบังเสาไว้ก็ได้



55.ตำแหน่งเตาไฟ

การตั้งเตาไฟต้องตั้งวางในจุดที่พิงผนัง อย่าตั้งลอยๆ กลางห้องโดยไม่มีผนังอิงหลังเตา และคนยืนปรุงอาหารต้องมีความสะดวกสบายในการเคลื่อนไห ว เพราะถ้าตั้งเตาไฟในมุมอับ จะทำให้คนในบ้านมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย และฐานะการเงินพลิกผันบ่อย

วิธีแก้เคล็ด

ให้ย้ายเตาไปตั้งที่มุมซึ่งมีผนังตั้งรับ จัดวางเตาในมุมหรือบนโต๊ะที่กว้างขวางและมีอากาศถ่ายเทสะดวก



56.โต๊ะอาหาร

เมื่อเดินเข้าบ้านมาสามารถพบเห็นโต๊ะอาหารได้ทันที ถือว่าไม่ค่อยดีนัก เพราะจะทำให้คนในบ้านมีเรื่องราวขัดแย้งกัน บ้านนี้จะมีแขกและเพื่อนฝูงแวะเวียนมาสังสรรค์เฮฮาอยู่บ่อยๆ ครั้ง จนเป็นปัญหามากกว่าเป็นความสุข

วิธีแก้เคล็ด

ควรตั้งโต๊ะอาหารไว้ในมุมด้านในของบ้าน อย่าจัดวางไว้รับหน้าประตูบ้านนัก ถ้าพื้นที่จำกัดจริงๆให้หาม่านหรือฉากมาตั้งบังตาไว้



57.โต๊ะอาหารกับครัว

โต๊ะอาหารตั้งวางไง้ในจุดใดๆ ของบ้านก็ตาม ถ้าไกลจากห้องครัวมากนัก ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ย มีผลต่อฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ทำให้เรื่องการเงินติดขัดไม่ลื่นไหล

วิธีแก้เคล็ด

ควรย้ายโต๊ะอาหารเสียใหม่ นำมาจัดวางใกล้ๆ กับห้องครัวหรือทำมุมทำครัว แล้วความเป็นอยู่จะอุดมสมบูรณ์ ครอบครัวรักใคร่สามี-ภรรยาปรองดองกันดี การงานและการเงินไร้ปัญหา



58.โต๊ะทำงานพิฆาต

โต๊ะทำงานที่ตั้งหันหน้าชนและชิดกับผนัง ผู้ที่นั่งทำงานนั่งหันหลังให้กับประตู ถือว่าเป็นลักษณะพิฆาต ผู้ทำงานในตำแหน่งนั้นจะหมดโอกาสได้รับความเจริญก้าว หน้า มิสามารถทำงานได้ยั่งยืนยาวนานในตำแหน่งนี้ มักมีความผิดพลาดล้มเหลวหรือถูกศัตรูมุ่งร้าย

วิธีแก้เคล็ด

หาทางจัดโต๊ะใหม่ที่ไม่ต้องนั่งหันหลังให้ประตู และถ้าไม่ต้องหันหน้าโต๊ะชิดผนังได้ก็จะดีมาก



59.โต๊ะทำงานใต้คาน

การตั้งโต๊ะทำงานมิควรหันหน้าเผชิญกับหน้าต่างพอดีหรือนั่งหันหลังให้หน้าต่าง เพราะจะทำให้การทำงานขาดคุณภาพ จิตใจไม่มีสมาธิทุ่มเทให้กับงาน ทำความผิดพลาดได้บ่อย ยากจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง

วิธีแก้เคล็ด

ให้ขยับโต๊ะและจัดวางใหม่ แต่ถ้าจำเป็นต้องตั้งโต๊ะหันหน้าให้หน้าต่าง ก็ควรขยับโต๊ะห่างจากหน้าต่างสัก 1 เมตร ถ้าต้องวางโต๊ะหันหลังให้หน้าต่าง ก็ควรให้เก้าอี้ห่างออกมา 1 เมตร หรือหาชั้นเอกสารเตี้ยๆ วางชิดริมหน้าต่างไว้



60.โต๊ะเจ้านาย

โต๊ะของผู้เป็นหัวหน้าแผนกหรือเจ้านาย ควรหันหลังพิงข้างฝา อย่าตั้งโต๊ะกลางห้อง เราะด้านหลังเก้าอี้จะว่างเปล่าไม่มีผนังเป็นหลักอัน มั่นคงและปกป้องจะทำให้สูญเสียบทบาทอำนาจในการบริหารงาน

วิธีแก้เคล็ด

สมควรจัดวางโต๊ะให้นั่งหันหลังอิงผนังของห้องได้อย่างพอดี ไม่ชิดจนเกินไปและไม่ห่างจนเกินไป

61.ห้องเชือดเฉือน

ห้องนอนที่ไม่เป็นสี่เหลี่ยม แต่มีส่วนหนึ่งเว้าแหว่งไปจนเป็นรูปทรงคล้ายมีดบังตอ ถือว่าไม่ดี ยิ่งถ้าตั้งเตียงตรงบริเวณส่วนคมของมีดก็ยิ่งถือว่าไม่ดี จะทำให้สามี-ภรรยาชอบหาเรื่องทำร้ายกัน มิว่าทางกายหรือทางคำพูด หรืออาจต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

วิธีแก้เคล็ด

ให้ตั้งเตียงในส่วนที่เป็นด้านสันมีด แล้วติดลูกแก้วคริสตัลหรือตั้งกระถางต้นไม้ไว้ที่จุด A

ถ้าเตียงจำเป็นต้องอยู่ทางคมมีด เพราะผนังด้านสันมีดเป็นห้องน้ำ ก็ให้ติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ทางผนังด้านตรงข้ามกับเตียง



62.ปลายเตียง

บริเวณปลายเตียงนอนสมควรให้มีเนื้อที่ว่างอย่างน้อยที่สุดก็สัก 2 ฟุตครึ่ง (ถ้ามีเนื้อที่เหลือกว้างมากก็ยิ่งดี) พยายามอย่าให้มีตู้หรือโต๊ะมาตั้งไว้ที่ปลายเตียงจนเกือบชิด จะทำให้ฝันร้ายบ่อย และจิตใจมักหงุดหงิดไม่สบายอยู่เสมอ

วิธีแก้เคล็ด

ควรปล่อยให้ปลายเตียงเป็นบริเวณโล่งๆ โปร่งๆ ถ้าเนื้อที่จำกัดจริงๆ และจำเป็นต้องวางตู้ขนาดใหญ่ไว้ที่ปลายเตียงก็ให้ติด ผ้าม่านสีอ่อนๆ ที่หน้าประตูตู้ เมื่อนอนมองมาจะมีความรู้สึกสบายตา ไม่รู้สึกถูกพลังบางอย่างกดทับ



63.หัวเตียง

ถ้าตั้งหัวเตียงไปทางทิศตะวันตก คู่สามี-ภรรยาจะมีแต่ความเบื่อหน่ายหมดความรักความใคร่ในกันและกัน แม้เป็นคนโสดก็จะมีแต่เรื่องให้เป็นทุกข์และกังวลใจ ชีวิตถดถอยมากกว่าเจริญก้าวหน้า

วิธีแก้เคล็ด

ให้ย้ายหัวเตียงไปทางทิศอื่น แล้วชีวิตจะมีความสุขความเจริญขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คู่สามี-ภรรยาก็จะมีความรักใคร่กันอย่างสดชื่นยิ่งขึ้น



64.เตียงกับเตา

การตั้งเตียงนอนต้องระวังให้มากที่สุด ดูด้วยว่าชั้นล่างบริเวณที่ตรงกับเตียงเรานั้นเป็นสิ่งของเครื่องเรือนใดบ้าง ถ้าตั้งเตียงทับเตาไฟในครัวชั้นล่าง หรือตั้งทับทีวี ตู้เย็นที่เป็นเครื่องไฟฟ้าก็ถือว่าไม่เป็นมงคล จะมีผลให้ชีวิตคู่แตกแยก การเงินติดขัด

วิธีแก้เคล็ด

ต้องย้ายตำแหน่งของเตียงนอนไปยังมุมอื่น หรือย้ายการจัดวางเตาไฟในมุมครัวชั้นล่างไปวางตั้งยังมุมอื่น แล้วคู่สมรสจะรักกันมั่นคงยั่งยืน ฐานะการเงินก็มั่งคั่งขึ้น

65.เตียงนอน

ถ้าเตียงนอนตั้งอยู่ในตำแหน่งตรงกับประตู เมื่อนอนอยู่บนเตียงแล้วมีลักษณะท่าทีคล้ายนอนขวางประตูอย่างหนึ่ง หรืออีกอย่างหนึ่งเหมือนนอนเอาปลายเท้าชี้หาประตู ถือว่าไม่ดี

วิธีแก้เคล็ด

ให้ติดผ้าม่านอย่างทึบ (มีลวดลายได้ แต่มิใช่ผ้าโปร่งบาง) ติดบังตาไว้โดยห้ามผุกรวบชายม่านเป็นอันขาด หรือหาฉากบานพับมาตั้งบังตาระหว่างเตียงกับประตูห้อง นอนหรือกั้นขวางด้วยตู้เสื้อผ้าก็ได้



แต่งบ้านตามราศี ทำให้ห้องโปรดสะท้อนความเป็นตัวตน

การแต่งบ้านตามราศีเกิด เป็นเหมือนสีสันสำหรับการอยู่อาศัยที่หลายคนสนใจ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่มีความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้บ้านใหม่ หรือห้องโปรดของคุณสะท้อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย พอสรุปได้ดังนี้

ชาวราศีเมษ

บ้านของชาวราศีเมษจะไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป เรียบง่าย สะดุดตา เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นสง่า ภายในบ้านจะมีความโปร่งโล่งเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เพราะชอบความเป็นอิสระ เป็นคนใจร้อน ถ้ามีของเยอะจะรู้สึกเกะกะ โทนสีที่นิยมคือ สีออกเหลืองนวลขาว หรือสีแดงของไม้มะค่า ลักษณะเด่นเป็นผู้ใฝ่รู้ จึงต้องมีห้องหนังสือ และชั้นวางหนังสือเป็นสัดส่วน

ชาวราศีพฤษภ

สไตล์การแต่งบ้าน จะออกเรียบๆ สบายๆ เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่แสดงถึงความอัครฐานและบ่งบอกถึงฐานะ ลักษณะของห้องต่างๆ จะถูกออกแบบให้เป็นไปตามการใช้งานจริง และภายในห้องจะต้องมีสิ่งที่จำเป็นอยู่ครบถ้วน ส่วนของตกแต่ง มักจะเป็นงานศิลปะ สีที่นิยม สีทอง สีแดง สีเลือดนก

ชาวราศีมิถุน

บ้านจะโปร่งโล่งให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือมีโคมไฟหลายๆ จุด เพื่อให้ความสว่าง บ้านถูกออกแบบให้มีมุมทำกิจกรรมหลายมุม ชอบการต้อนรับ ชาวราศีนี้จึงให้ความสำคัญกับบริเวณหน้าบ้าน ห้องรับแขก และห้องครัว ชื่นชอบในงานศิลปะ และความงามของเฟอร์นิเจอร์เน้นความทันสมัย แปลกตา สีที่นิยม สีเขียว สีฟ้า

ชาวราศีกรกฎ

ชาวราศีนี้เป็นผู้ที่ชอบพบปะผู้คนและมีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ การสร้างบ้านตลอดจนการตกแต่งจึงไม่เพียงเพื่อความสุขกายสบายใจของตนเองและครอบครัว แต่ยังคำนึงถึงผู้อื่นด้วย ชอบงานศิลปะ เครื่องดนตรี จึงมักพบเห็นสองสิ่งนี้เป็นของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์เน้นความสะดวกสบาย เครื่องเรือนสามารถจัดเก็บของได้มาก สีที่นิยมใช้คือ สีเหลือง สีขาว สีฟ้า และสีออกโทนส้ม

ชาวราศีสิงห์

เป็นผู้ที่ชอบทำงาน ชอบใช้สมองตลอดเวลา จึงต้องมีห้องทำงาน เน้นบ้านที่แข็งแรงมั่นคง เพื่อตอบสนองความต้องการในเชิงจิตใจ บ้านกว้างใหญ่ไว้อวดผู้มาเยือน ส่วนเฟอร์นิเจอร์นิยมความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานหนักได้ พื้นห้องมักจะเป็นหินอ่อน หินแกรนิต สีที่นิยมใช้ คือสีในวรรณะร้อน คือสีแดง สีส้ม สีแสด และสีที่แลดูโปร่ง เช่น สีขาวนวล สีขาวอมส้ม

ชาวราศีกันย์

ลักษณะเด่นมีความเป็นแม่ศรีเรือน เป็นพ่อบ้าน มักให้ความสำคัญกับห้องครัวเป็นพิเศษ ต้องมีอุปกรณ์ครบถ้วน เป็นคนที่รักครอบครัว ชื่นชอบของเก่า การแต่งบ้านต้องมีการแบ่งสัดส่วนภายในอย่างชัดเจน ควรมีความโล่งโปร่งมากๆ เพราะให้ความสำคัญกับการทำงานจึงมักไม่ค่อยมีเวลาดูแล เฟอร์นิเจอร์ต้องแข็งแรงทนทาน ถ้าเป็นของเก่าที่ตกทอดกันมาจะยิ่งชอบมาก สีที่นิยม คือ สีเขียว สีแสด สีม่วง สีเทา และสีฟ้า

ชาวราศีตุล

ลักษณะเด่นชาวราศีนี้คือ มีงานอดิเรกในการวาดภาพ และสะสมภาพ บ้านจึงเน้นผนังทึบไว้ติดงานเหล่านี้ หรือมีมุขทำงานศิลปะโดยเฉพาะ ห้องนอนมีเตียงสวยๆ บ้านมีความเนี้ยบเป็นระเบียบ เพราะอุปนิสัยเป็นคนประณีต ชอบความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต้องประณีตเรียบร้อย หากเป็นภาพ แผนที่ หรือลูกโลกประดับในบ้านจะชอบมาก เพราะชอบเดินทาง สีที่นิยมคือ สีฟ้า สีน้ำเงิน สีดำ

ชาวราศีพิจิก

ชาวราศีนี้คือใส่ใจกับห้องน้ำเป็นพิเศษ หากเลือกได้ห้องน้ำต้องเป็นห้องที่กว้างใหญ่ สวยงาม อุปกรณ์ครบครัน มีความสว่างที่เพียงพอ เกือบจะเป็นห้องนอนห้องที่สองเลยทีเดียว อุปนิสัยเป็นคนลึกลับและมีสัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองสูง วิตกกังวล และรักสันโดษ ทำให้บ้านมีลักษณะแปลกตา เฟอร์นิเจอร์มีรูปทรงที่ทันสมัย หรือไม่ก็เก่าแก่โบราณไปเลย เป็นคนชอบเครื่องเสียง หรือสิ่งที่เป็นไฮเทคโนโลยีทั้งหลาย สีที่นิยมคือ สีเหลืองอ่อนและสีขาว

ชาวราศีธนู

เป็นคนที่มีภารกิจยุ่ง วุ่นวาย แม้แต่เวลาจะนอนก็ยังอดไม่ได้ต้องเอางานมาทำด้วย ในห้องนอนจึงต้องมีโต๊ะทำงาน และตู้หนังสือ เป็นนักอนุรักษนิยมชอบความเป็นธรรมชาติ บริเวณบ้าน จึงต้องมีต้นไม้เป็นส่วนประกอบสำคัญ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้มักจะทำจากไม้ และมีขนาดใหญ่ ไม่ชอบความเกะกะ สีที่นิยมใช้คือ สีแสด สีเหลือง และสีชมพู

ชาวราศีมังกร

ด้วยอุปนิสัยที่ชอบวิตกกังวลทำให้ต้องมีกระจกเงาบานใหญ่ และยาวพอที่จะส่องเห็น ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องออกไปพบปะผู้คน ชอบเก็บตัว ระแวดระวัง มีความเป็นส่วนตัวสูง บ้านมักมีรั้วรอบขอบชิด หรือมีม่านหนาทึบ ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ห้องนอนต้องสงบและมืดทึบ เฟอร์นิเจอร์คำนึงถึงประโยชน์ในการเก็บทรัพย์สินและสิ่งของได้มาก สีที่นิยมคือ สีดำ สีม่วง หรือสีโทนเข้มๆ

ชาวราศีกุมภ์

ชาวราศีนี้ชอบการพบปะสังสรรค์ มักมีผู้คนไปมาหาสู่เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้-เจรจาธุรกิจ ห้องรับแขกจึงควรมีเนื้อที่จัดปาร์ตี้เล็กๆ ตัวบ้านเน้นความสวยงาม คนชอบเล่นกีฬาชอบออกกำลังกาย และชอบฟังดนตรี บริเวณบ้านจึงมักมีส่วนเพื่อออกกำลังกาย และมีมุมฟังดนตรี เฟอร์นิเจอร์เน้นความสวยงามของรูปทรงและสีสัน สีที่นิยม สีน้ำเงิน สีฟ้า และสีเขียว

ชาวราศีมีน

รอบๆ บ้านมักมีตุ่มใส่น้ำ บ่อเลี้ยงปลา อ่างบัว ตรงกับสัญลักษณ์ของเจ้าราศี ที่เป็นรูปปลา เป็นคนรักสบาย รักความเป็นอิสระ บ้านมีความเด่นชัดที่ความเรียบง่าย ดูสบายๆ แต่ทันสมัยตามยุค ชอบความโล่ง ไม่ยึดติด เฟอร์นิเจอร์มักเป็นแบบที่ประยุกต์ไปใช้งานได้หลายอย่าง ในห้องน้ำมักจะมีอ่างอาบน้ำเพื่อสร้าง ความเย็นกาย เย็นใจให้ สีที่นิยมคือ สีเขียว สีฟ้า และม่วงอมคราม

ราศีใดตรงกับความเป็นตัวตนของคุณก็เลือกแต่งได้เลยตามความพอใจ

วันเกิดสื่อวิญญาณ
Posted by kroolue : 17:02:21 น. หมวดหมู่ : ทั่วไป
~ ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ~

หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์
ในสภาพที่คุณอ่อนแอไม่ทางกายก็ทางใจ
เพราะบางสิ่งที่กำลังจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์
อาจทำให้คุณเห็นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้


~ ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ~

ผู้ที่เกิดวันนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือห่างไกลการมองสะท้อนของกระจก
โดยเฉพาะกระจกร้าว ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป
และอย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเสียงเรียกร้อง
เพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงทวงถามวิญญาณของคุณ


~ ผู้ที่เกิดวันอังคาร ~

ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าผ่านถ้าไม่จำเป็น
เพราะอาจมีบางสิ่งแฝงกายและติดตามตัวคุณ
มิฉะนั้นคุณอาจเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเห็น หรือคุณอยากลองดีก็เชิญ


~ ผู้ที่เกิดวันพุธ ~

ห้ามเด็ดขาดกับการไปงานศพ เพราะว่าจะมีภูตผีตายโหงสิงสถิตติดตามตัว
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังกลับจากพิธีให้รีบอาบน้ำ(โดยเฉพาะน้ำว่าน)ก่อนเที่ยงคืน


~ ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ~

อย่ามองหัวบันไดในที่มืด อย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเรียกชื่อคุณ
คุณไม่ได้หูแว่วหรอก เพียงแต่มีบางสิ่งต้องการที่จะสื่อบางอย่างกับคุณ
ให้คุณหลับตาแล้วถอยหลัง 1 ก้าวแล้วเสียงจะหายไป


~ ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ~

กรรมอดีตจากชาติภพที่แล้วกำลังติดตามเป็นเงา
ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางน้ำเพราะว่าธาตุน้ำ
อาจเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์


~ ผู้ที่เกิดวันเสาร์ ~

อย่าแปลกใจที่คุณจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนอย่างโหยหวน
เพราะว่าดวงวิญญาณกำลังรายล้อมรอบตัวคุณ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเกิดวันนี้ก็คือ อย่าจ้องมองศาลพระภูมิ

ดวงเวลาเกิด แม่นมาก

* ตี 5 ถึง 7 โมงเช้า : ช่วงเวลากระต่าย
เป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาด ชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอ สุภาพอ่อนโยน พูดจาหวาน นอบน้อมถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ สงบเงียบเรียบร้อยเหมือนผู้ใหญ่ มีความมั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้มแข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบเป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง เข้าอกเข้าใจผู้อื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายเร็ว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบทำบุญ

* 7 โมงเช้า ถึง 9 โมงเช้า: ช่วงเวลามังกร
บุคลิกดูหยิ่งทะนงมาก ท่าทางสง่าผ่าเผย ดูหัวสูง ความทะเยอทะยานจะเห็นได้ชัด ดูน่าเกรงใจ เข้าถึงยาก มีความเป็นผู้นำสูง เป็นคนใจกว้าง เด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย บุ่มบ่ามมุทะลุ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ชอบเรื่องเล่ห์เหลี่ยม เป็นที่พึ่งพิงได้ รับผิดชอบสูง ขี้สงสารเป็นคนมีประสิทธิภาพสูง อนาคตแจ่มแจ๋ว เพราะความมุ่งมั่นบากบั่นของตัวเอง

* 9 โมงเช้า ถึง 11 โมงเช้า: ช่วงเวลางู
โดยมากจะหน้าตาดี แต่งตัวดีเสมอด้วยของหรูหราราคาแพงหรือมียี่ห้อการันตี ภาพพจน์จะต้องมาก่อนเสมอ บุคลิกดูเงียบขรึม เรียบร้อยสุภาพนุ่มนวล มารยาทดี พูดจาหวานหู นิสัยข้างในค่อนข้างฉลาด เก็บความรู้สึกและความต้องการได้นิ่งลึกมาก รักการแข่งขันชิงดีชิงเด่น มีความทะเยอทะยานสูง ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง เป็นนักวางแผนผู้ชาญฉลาดใจแข็ง ไม่หวั่นไหวอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ

* 11 โมงเช้า ถึง บ่ายโมง: ช่วงเวลาม้า
มีบุคลิกของนักกีฬา แข็งแรงอดทน ร่าเริงคึกคัก ชอบสนุกสนาน รักอิสระเสรีและการผจญภัย มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบแหกกฎ เป็นคนใจกว้าง กระตือรือร้นมาก แต่รอบคอบไม่เป็น ใจร้อน ชอบทำก่อนคิด กล้าลุยไปข้างหน้า จิตใจเข้มแข็ง มานะ บากบั่น มีความจริงใจสูง เวลามีทิฐิจะเป็คนหัวแข็ง ดื้อรั้นสุดๆ เวลาน่ารักจะมีชีวิตชีวาน่าตื่นเต้น เจอมรสุมก็ยังลุกขึ้นสู้ได้

* บ่ายโมง ถึง บ่าย 3 โมง: ช่วงเวลาแพะ
เป็นคนใจดี อ่อนโยน จนถึงขั้นขลาดเขิน เป็นคนสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวลมีมารบาท ดูสุขุมใจเย็น ไม่มีพิษมีภัย ขี้อายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างฝัน มีไอเดียมันๆ กับเรื่องตลกจี้เส้น บางเวลาดูเศร้าซึม เพราะชอบคิดมากเกินเหตุ จิตใจดี ทำร้ายใครไม่เป็น ถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตา มีความมั่นใจซ่อนไว้ใต้ท่าทางอ่อนโลก ซื่อตรงรักสงบ เกลียดความรุนแรง อะไรๆ ก็ดีหมด ยกเว้นเรื่องดื้อรั้น ครองแชมป์ตลอดกาล

* บ่าย 3 โมง ถึง 5 โมงเย็น: ช่วงเวลาลิง
เป็นคนไม่อยู่เฉย เปิดเผยใจร้อนและซุ่มซ่าม นิสัยเหมือนเด็กๆ ชอบเล่นพิสดาร เป็นคนฉลาดหัวไว มีไหวพริบ กล้าพูดกล้าทำ ตรงไปตรงมา เป็นนักวางแผน รู้จักเอาตัวรอด มีเล่ห์กล แต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคนได้ทุกระดับ ทุ่มเทกับการงาน ทำงานดีเชื่อมือได้ เสน่ห์ในตัวอยู่ที่ความขี้เล่น มีชีวิตชีวา อาจจะดูกะล่อนเล็กๆ แต่ก็หนักแน่นจริงใจมาก

* 5 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่ม: ช่วงเวลาไก่
เป็นคนเข้มแข็งหยิ่งยะโส หัวรุนแรงขวางโลกและหัวโบราณ เป็นคนชอบแต่งตัว ใช้แต่ของดีมีราคา บุคลิกขี้อวด ส่วนลึกของจิตใจเป็นคนอนุรักษ์นิยม
เจ้าระเบียบ จู้จี้ ขี้บ่น หงุดหงิดง่าย ไม่ยอมเสียเงินอย่างไร้ค่า ยกเว้นเรื่องภาพพจน์ล่ะก็โอ.เค. มีหัวในการบริหาร มีความเด็ดขาด ต่อสู้กับอุปสรรคไม่มีถอย ยามอารมณ์ดีจะเป็นคนสนุก ชอบล้อเล่น ใจกว้าง มีน้ำใจนักกีฬา ไม่ชอบการใช้อำนาจ เกลียดคนอวดเบ่งที่สุด

* 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม: ช่วงเวลาหมา
เป็นคนรักคุณธรรมความถูกต้อง ซื่อสัตย์จริงใจมาก จนถึงขั้นยึดมั่นถือมั่นทีเดียว ยืดหยุ่นไม่ค่อยเป็น คิดและทำอะไรก็ตาม ตรงทื่อไปหมด ไม่กล้าแหกกฎระเบียบ ชีวิตไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ มีความขยัน ฉลาด แต่พลิกแพลงไม่เป็น เอาตัวไม่ค่อยรอด เกิดมาเป็นนักปกป้องคุ้มครองคนอื่น มองโลกแบบตรงไปตรงมา ไม่เพ้อฝัน ขาดอารมณ์โรมานซ์ แต่ก็เป็นคนตลกจี้เส้น มองโลกในแง่ดี มักจะเสียสละเพื่อคนอื่น ถึงจะซื่อไปนิด เซ็งไปหน่อย แต่ก็จริงใจนะ

* 3 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม: ช่วงเวลาหมู
เป็นคนขี้เกียจนิดๆ เฉื่อยหน่อยๆ รักความเรียบง่ายไม่มากเรื่อง สุภาพอ่อนโยน ใจดีและอบอุ่น จริงใจ มีอารมณ์สุนทรี รักดนตรีและศิลปะสวยงาม มีความโรมานซ์ในหัวใจ แม้จะพูดน้อย แต่เอาอกเอาใจเป็นเลิศ ชอบแต่งตัวแบบผู้ดี รสนิยมดี ชอบทำอาหารและชอบกิน รูปร่างจึงออกแข็งแรงและสมบูรณ์ เป็นคนใจกว้างและชอบให้อภัย หากถูกทำร้ายจะกลายเป็นหมูป่า สู้ถวายชีวิตความคิดและการกระทำจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป รอบคอบ ใจเย็น จนกว่าจะมั่นใจถึงจะลุย เป็นแม่บ้านพ่อเรือนที่รักครอบครัวมาก

* 5 ทุ่ม ถึง ตี 1: ช่วงเวลาหนู
มีบุคลิกกระตือรือร้น ร่าเริงปราดเปรียว สดใส แต่มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไว ไหวพริบดี ตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ท่าทางดูขรึม พูดน้อย เฉยชา แต่มีมารยาท รักเพื่อน ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจ จุดเด่นคือความขยันและสะสมเก่ง มักมีเงินสำรองซ่อนไว้ไม่มีใครรู้ ชอบวางแผนการเงิน ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย เป็นคนมีระเบียบ บากบั่นมุ่งมั่นสูง ปรับตัวเก่ง มีความรักแบบผู้ให้ รักครอบครัว แต่ก็รักอิสระ กว่าจะลงเอยกับใครสักคน ใช้เวลาคิดนานเชียว

* ตี 1 ถึง ตี 3: ช่วงเวลาวัว
ท่าทางแข็งแรงบึกบึนและอึด เป็นคนเฉลี่ยแบบใจเย็น โกรธยาก แต่โกรธเหมือนระเบิดลง มีความบากบั่น มีระเบียบ ขยัน อดทน หนักแน่น ทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ทื่อตรงจนไม่ค่อยทันใคร ขาดอารมณ์ขัน ตลกก็ตลกแบบฝืดๆ ไม่ชอบความรุนแรง มักจะเลี่ยงการทะเลาะวิวาท แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็จะกลายเป็นวัวกระทิงขวิดสุดฤทธิ์

* ตี 3 ถึง ตี 5: ช่วงเวลาเสือ
เป็นคนหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าว เข้มแข็ง ดูมีอำนาจ จิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มั่นใจในตัวเองสูง แต่ขาดความรอบคอบ เพราะอารมณ์อยู่เหนือหัวใจ
ไม่รู้จักออมชอม ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ ไม่รู้จักสีเทา แต่ก็เป็นคนใจดี เสียสละ ใจกล้า ไม่จุกจิกกับเรื่องเล็กน้อย มีความรับผิดชอบ ฉายเดี่ยว ไม่อยู่ติดที่ มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด หลงใหลเรื่องรักโรแมนติก มีความเซ็กซี่เป็นเสน่ห์ส่วนตัว

การจัดฮวงจุ้ย เพื่อบริหารความรัก


1.อย่าแขวนรูปสัตว์ที่เป็นคู่เพศเดียวกันไว้ในบ้าน แต่ให้ใช้รูปสัตว์ที่เป็นคู่ต่างเพศกัน

2.อย่าใช้ที่นอนหรือเตียงนอนเก่าที่เคยนอนกับคู่รักเก่า แต่จงใช้เตียงนอนใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ของการเริ่มต้นใหม่

3.อย่าวางสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับความรัก ความโรแมนติกไว้ในห้องน้ำ

4.จงนอนในที่สูงกว่าพื้น เช่น นอนบนเตียง เพราะคุณจะได้รับพลังปราณชี่ได้เต็มทีในขณะที่คุณกำลังหลับ

5.จงวางเทียนตั้งโต๊ะสีชมพูเป็นคู่ไว้ในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของห้องนอน

6.จงเลือกเตียงนอนที่มีหัวเตียงลักษณะทึบและไม่โปร่งแสง

7.จงแขวนภาพเด็กที่มีรูปเด็กเป็นจำนวนมากเมื่อคุณต้องการจะมีลูกหลานเยอะ

8.จงปิดหน้าต่างทุกครั้งเมื่อเข้านอน

9.อย่าใช้แสงไฟที่มีความสว่างมากไปในห้องนอน เนื่องจากมันมีความเป็นหยางมากเกินไป

10.จงนำหินควอซที่แกะสลักเป็นรูปกุหลาบ 1 คู่วางไว้ใต้หมอนของคุณและเขา

11.จงทำความสะอาดกระจกทุกบานให้สะอาดอยู่เสมอ

12.อย่าเก็บดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวไว้ในบ้าน

13.อย่าให้ของขวัญวันแต่งงานหรือวันเกิดใคร ด้วยเซ็ทกรรไกร หรือมีด เพราะจะทำให้คุณถูกตัดความสัมพันธ์ได้ง่าย

14.จงเก็บอาวุธหรือของมีคม เช่น ดาบ ห่อด้วยผ้าใยสีแดง

15.จงแต่งห้องนอนให้เป็นสีชมพู หากคุณเป็นสาวโสด

16.จงแขวนรูป ผู้ชายหรือรูปคู่ชายหญิงไว้ที่ผนัง หากคุณเป็นสาวโสด

17.อย่านอนโดยให้หัวคุณใกล้ปลั๊กไฟ

18.อย่านำหมอนรูปสัตว์ไว้บนเตียง เพราะจะทำให้คุณไม่มีเนื้อที่สำหรับความรักใหม่

19.อย่าใช้วิทยุนาฬิกาที่มีตัวเลขเป็นสีแดง เพราะมันจะรบกวนการพักผ่อน

20.จงวางเก้าอี้หินไว้ทางทิศตะวันตกของห้องนอน

แก้เคล็ดฮวงจุ้ยด้วยส
1.สีแดง
เสริมดวงการเงิน เกียรติยศชื่อเชียง พลังชีวิต แก้ไขความอ่อนแอของจิตวิญญาณ
2.สีชมพู
เสริมความนุ่มนวล ความห่วงใยอาทร แก้ไขความเย็นชา ปราศจากความรัก และความอ่อนโยน
3.สีม่วง
เสริมความมั่งมีศรีสุข และชื่อเสียงลาภยศ แก้ไขความหยุดนิ่งของดวงชะตา
4.สีเขียว
เสริมความสงบ ความหวัง และความมั่นคงปลอดภัย แก้ไขความติดขัด อุปสรรคต่างๆ และความร้อนรนวุ่นวาย
5.สีเหลือง
เสริมอำนาจบารมีและโชคทรัพย์ แก้ไขความตกต่ำ ความอ่อนแอ และความแห้งแล้งของจิตใจ
6.สีส้ม
เสริมความคิดริเริ่ม และความสุขสันต์หรรษา แก้ไขความทึบตัน ความหม่นหมอง และความถดถอยทางจิตวิญญาณ
7.สีฟ้า
เสริมความอบอุ่น การเจริญเติบโต การพัฒนาต่างๆ แก้ไขความเศร้า ความแตกแยก และการหยุดนิ่งเฉื่อยชาของอารมณ์จิตใจ
8.สีเทา
เสริมความสมดุล ความเรียบง่าย แก้ไขความร้อนรน วุ่นวายไร้ระเบียบ
9.สีดำ
เสริมความเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง แก้ไขความเลื่อนลอย ขาดเอกภาพ
10.สีน้ำตาล
เสริมความมั่นคง บารมี ความสง่างาม แก้ไขความผันแปรต่างๆ

การตระหนักถึงความปลอดภัย เริ่มแรก

ตามจริงแล้ว security awareness หลายคนคงได้ยินมาแล้วไม่มากก็น้อย อย่างใน พจนานุกรมของ เวป longdo ได้อธิยาบไว้ว่า
awareness แปลว่า ความตระหนัก,สติ
ส่วนคำว่า securiy หรือ safety
security แปลว่า ความปลอดภัย
ที่ผมทำ bloger อันนี้คืนมาก็เพื่อจะชี้ให้ทุกคนเห็นถึงการตระหนักถึงความปลอดภัยต่างๆที่อาจจะเกิดกับเราได้ทุกคนโดยผมจะเน้นไปที่ด้าน it เป็นส่วนใหญ่เพราะคนที่เริ่มแรกที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ เปิดปิดเครื่องเป็นยังไม่พอ ภัยคุกคามด้าน อินเตอร์เน็ตมีมากขึ้นความปลอดภัยลดน้อยลง ความเป็นส่วนด้วยก็ลดน้อยลงมากขึ้นเพราะการสื่อสารที่รวดเร็วทำให้ข่าวสารส่งถึงกันเร็วขึ้นข้อมูลก็ส่งถึงกันเร็วยิ่งขึ้น